ยินดีต้อนรับทุกท่านนะค่ะ โอกาสหน้าแวะมาเยี่ยมเราอีกนะค่ะ ที่นี้เลย www.happy-222.blogspot.com

2552/02/22

เสริมความรักด้วยโหราศาสตร์จีน-ฮวงจุ้ย


ในสมัยก่อนคนรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ที่เป็นคนจีนมักจะแต่งงานกันในลักษณะที่เรียกว่า คลุมถุงชน โดยอาศัยแม่สื่อ แม่ชัก โดยที่แต่ละฝ่ายอาจจะไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนด้วยซ้ำ ตัวแม่สื่อนั้นมักจะมีความรู้ด้านการดูโหงวเฮ้งหรือศึกษาการดูลักษณะของคนอยู่บ้าง เวลาที่เจอลูกสาวของครอบครัวไหนหน้าตาโหงวเฮ้งดีหน่อย ก็จะสอบถามวันเดือนปีและเวลาเกิดไว้เป็นข้อมูลเพื่อดูว่าสมพงศ์กับฝ่ายชายบ้านไหนบ้างหรือไม่ ถ้าเหมาะสมและชอบใจก็จะมีการสู่ขอหมายหมั้นกันต่อไป เนื่องจากความรักของคนรุ่นก่อนจะค่อนข้างถูกผูกมัดด้วยกรอบของจารีตประเพณีอย่างมาก มิได้เกิดจากความรักระหว่างหญิงชายโดยตรง ดังนั้นหากต่อมาในระหว่างการใช้ชีวิตคู่ หากพบว่าฝ่ายชายไม่ดี ฝ่ายหญิงก็ต้องอดทนขมกลืน จะลำบากอย่างไรก็ต้องกัดก้อนเกลือกิน จะทุกข์อย่างไรก็ต้องทนเพื่อลูก ถ้าบังเอิญสามีเกิดเป็นฝ่ายตายก่อน ฝ่ายหญิงก็ต้องไว้ทุกข์เป็นแม่หม้ายตลอดชีวิตไม่กล้ามีสามีใหม่ ถ้าเคยดูภาพยนตร์จีนบางเรื่อง จะเห็นว่าในบางตำบลจะมีการแจกป้ายเชิดชูเกียรติให้กับหญิงที่ครองตัวเป็นหม้ายมาด้วยดี ถือเป็นเกียรติประวัติ


แต่ในปัจจุบัน หากคู่รักต้องจนถึงขนาดกัดก้อนเกลือกิน เชื่อว่าต่างฝ่ายต่างก็ต้องเลิกรากันไปอย่างเร็วที่สุด ยิ่งสังคมไทยเราขณะนี้ได้ถือเอาวันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก ไม่ว่าด้วยการถือโอกาสประกาศให้เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง พ่อแม่ทราบหรือด้วยการจดทะเบียนสมรสก็ตาม มองดูก็ถือเป็นเรื่องดี แต่จากสถิติของการหย่าร้างของแต่ละปีมีเพิ่มขึ้นทุกปี วันวาเลนไทน์จึงยังจะมีความหมายอะไร ความไม่ลงตัวของความรัก หากไม่มองในแง่ของฐานะ การศึกษาก็อาจจะเกิดขึ้นจากปัญหาหนึ่งที่เราอาจมองข้ามไป นั่นก็คือการไม่ได้ศึกษาถึงปีเกิดของแต่ละฝ่ายในแง่มุมของโหราศาสตร์ ทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชายมักจะเลือกหาฤกษ์ยามที่ดีแต่งงาน แต่อาจไม่ได้มองว่าปีเกิดของคู่รักแต่ละฝ่ายสามารถเข้ากันได้หรือไม่ ซึ่งในเรื่องของปีเกิดของคนเราทั้ง 12 ปีนักษัตรนั้น จะมีทั้งปีที่สมพงษ์กัน ขัดแย้งกัน หรือเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เช่นที่คนจีนในสมัยก่อนหากใครมีลูกสาวที่เกิดปีขาล ก็มักจะปกปิดปีเกิดเพราะเกรงว่าไม่มีใครกล้ามาสู่ขอ กลัวจะกินสามี หรือ กลัวเข้าปฏิวัติ ข่มขู่ลูกชาย และโดยสถิติผู้หญิงที่เกิดปีขาลในที่สุด มักจะครองตัวเป็นโสดหรือมีปัญหาในเรื่องของคู่ครองไม่สมหวังในด้านความรัก จริง ๆ อาจจะเป็นเพราะความเก่ง ความกล้าที่ไม่กลัวและไม่ยอมลงให้ใครง่าย ๆ เรียกว่าหัวแข็ง ดื้อรั้น ดังนั้นก่อนจะเริ่มมอบความรักให้ใคร ถ้าได้อาศัยความรู้ทางด้านโหราศาสตร์จีนมาช่วยวิเคราะห์พิจารณาเลือกคู่ไม่ว่าเพื่อตัวเองหรือเพื่อบุตรบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องดีเพราะจะไม่เสี่ยงจนเกินไป

ปีที่สมพงศ์หรือพูดภาษาเดียวกันนั้นมีทั้ง ปีมะโรงที่ถูกกับปีวอก ชวด หรือระกา ปีเถาะถูกกับปีมะแม กุน หรือจอ ปีฉลูที่ถูกกับปีมะเส็ง ปีระกา ปีชวด ปีฉลูกลับเป็นปีที่ปะทะกับมะแม ปีเถาะไม่ถูกกับปีระกา เป็นต้น


ทิศทางของบ้านอยู่อาศัยของคู่รักจะต้องดี ถูกต้องตามยุคของฮวงจุ้ย สมพงษ์และเสริมผู้อยู่และสมาชิกให้เจริญก้าวหน้า ในทางโหราศาสตร์จีนเราเรียกว่า ดวงบ้านดี ถ้าบ้านมีดวงก็ช่วยให้งานหรือธุรกิจดำเนินอยู่ราบรื่น ไม่มีอุปสรรค ถ้าไม่มีดวง คู่สมรสหรือคู่รักก็ต้องดิ้นรนมากขึ้น เหนื่อยขึ้น ไม่มีคนหนุน ต่างคนต่างเหนื่อย ต่างคนต่างหาเงิน ไม่มีเวลาหันหน้าเข้ามาจู๋จี๋กันได้เต็มที่ บางวันกลับมาบ้านพร้อมกับปัญหามากมาย ความสุขที่หวังไว้มากมายตั้งแต่แรกก็คงไม่เกิดขึ้น ยิ่งถ้าไปเจอตำแหน่งของประตูบ้านเสีย ก็จะดึงแต่เรื่องร้าย ๆ เรื่องให้เสียเงิน หรือคดีความ เข้ามา


แม้จะไม่ได้เป็นกฎกติกา 100 เปอร์เซ็นต์ว่าทุกคู่จะอยู่ร่วมกันได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ถือเป็นทางออกเบื้องต้นก็จะช่วยให้ทั้งคู่สามารถอยู่ร่วมกันได้เพราะต่างคนต่างรู้กฎกติกาตัวนี้ ก็จะพยายามหลีกเลี่ยงปัญหา เวลาคนหนึ่งโมโห อีกคนหนึ่งเงียบหรือถอยห่าง ก็จะสามารถประคับประคองชีวิตคู่ไปได้ แต่เรื่องของความรักนั้นเป็นเรื่องของความละเอียดอ่อน หากไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของปีเกิดหรืออายุของการแต่งงานที่เร็วจนเกินไปตามลักษณะโหงวเฮ้งของแต่ละคน เพราะใช่ว่าทุกคู่สามารถจะแต่งงานโดยเร็วได้ บางคู่แต่งเร็วได้ต้องหาคู่ที่สูงอายุ หรือคนมีตำหนิ บางคนมีคู่ทุกครั้งก็ต้องเลิกทุกครั้ง บางคู่ต้องแต่งช้าชีวิตถึงจะสบาย แต่ก็ยังองค์ประกอบอีกประการหนึ่งที่มีผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตคู่เช่นเดียวกัน นั่นก็คือเรื่องของฮวงจุ้ยบ้านอยู่อาศัย พบว่าสาเหตุกว่าครึ่งหนึ่งของการหย่าร้างเกิดจากปัญหาของความไม่พร้อมทางด้านการเงิน อุปนิสัย ความเคยชิน รสนิยม และความต้องการพื้นฐานของตนเองเพื่อความมั่นคงในชีวิต การมีแต่ความรัก แต่ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้จ่าย สุขภาพเรื้อรังที่ไม่ดีของอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นปัญหาที่ล้วนแต่เกี่ยวข้องอยู่ในเรื่องของฮวงจุ้ยถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น


เตียงนอนของคู่รักหรือคู่ชีวิต วางถูกต้องตามทิศทางและตำแหน่งที่ควรจะวางในแต่ละยุคของฮวงจุ้ยหรือยัง ถ้านอนถูกต้อง ร่างกายก็จะเหมือนกับแบตที่ชาร์จไฟหรือพลังไว้จนเต็ม พร้อมที่จะใช้งานอยู่เสมอ เสริมให้สุขภาพดี แข็งแรง หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสุขภาพไม่แข็งแรงเพราะนอนอยู่ในตำแหน่งที่เสีย เหมือนชาร์จไฟไม่เต็มแบต อารมณ์ ความคิดความอ่านก็ไม่แจ่มใส ยิ่งหากสมรรถภาพทางเพศของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสื่อมหรือไม่มีความต้องการ ปัญหาของความขัดแย้งหรือปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมาย่อมมีอย่างแน่นอน


ตำแหน่งครัว น้ำไฟ ปกติจะมีตำแหน่งการวางในแต่ละยุคหรือแต่ละ 20 ปี ถ้าวางผิดจะส่งผลให้โชคชะตาของผู้อาศัยขึ้น ๆ ลง ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย รายรับรายจ่ายไม่คงที่ หาเงินเก่งก็จริงแต่ออมเงินไม่อยู่ ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว เกิดปากเสียง ความขัดแย้งที่วุ่นวาย การผ่าตัด สุขภาพเรื่อรัง ปัญหาของช่องท้อง เป็นต้นเรื่องของฮวงจุ้ยที่ดีและไม่ดี จึงล้วนแต่มีผลกระทบต่อความรักและความสัมพันธ์ของคู่ชีวิตรวมถึงสมาชิกใหม่ของครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหากเรารู้จักนำหลักโหราศาสตร์จีนทั้งในแง่ของโหงวเฮ้ง นักษัตรปีเกิด และวิชาฮวงจุ้ยมาเสริมเข้าด้วยกัน เชื่อว่าความรักและความสุขของคู่ชีวิตย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ของแต่งบ้าน 9 อย่าง (บันดาลโชค)


ของแต่งบ้าน 9 อย่างนี้ ถ้าคุณมีในบ้าน จะช่วยให้คุณมีความสุขสบายมากขึ้น ของแบบนี้ไม่ลอง ไม่รู้นะคะ


ส้ม เป็นรูปภาพก็ได้ หรือผลไม้เหมือนจริงมาใส่ตะกร้าบนโต๊ะในห้องรับแขกจะให้โชคลาภ วาสนาดี


ทับทิม ควรปลูกไว้หน้าบ้านจะได้ลูกหลานที่ดี และไม่มีภัย


โต๊ะต่าง ๆ ภายในบ้าน ควรจะเลือกเป็นทรงกลม หรือแปดเหลี่ยม ถ้าเป็นสี่เหลี่ยมมุมโต๊ะควรเป็นมน ๆ จะเสริมมงคลให้แก่บ้านสามารถ ขจัดพลังชั่วร้ายและดึงดูดเอาความเจริญเข้าสู่บ้าน


ของแต่งบ้านรูปหมู เป็นสัญลักษณ์ของโชคและความอุดมสมบูรณ์ กินดีอยู่ดี มั้งมีเงินทอง


ช้าง เป็นสัญลักษณ์ของสติปัญญาและโชค ควรตั้งช้างไว้ในห้องรับแขก ห้ามตั้งช้างให้หันหน้าออกสู่หน้าประตูเด็ดขาดจะทำให้ครอบครัววุ่นวายมีแต่เรื่องขัดแย้ง


การนำพัดมาตกแต่งบ้าน จะช่วยบันดาลให้คุณและคนในครอบครัว ประสบความร่มเย็นเป็นสุข และมักได้ข่าวดีอยู่เสมอ


ไก่ ตุ๊กตาหรือรูปปั้นวัสดุ ใดก็ได้ล้วนแต่เป็นสิริมงคลต่อบ้านในทางเรียกโชคลาภเงินทอง ความเที่ยวตรง
เต่า ตุ๊กตาหรือรูปปั้นเต่า ไว้ในห้องนั่งเล่นหรือมุมใดในบ้านก็ได้ จะทำให้คนในบ้านสุขภาพดี อายุยืน ยกเว้นห้องทำงาน


การแต่งบ้านด้วยเครื่องปั้นดินเผา ไม่ว่าจะเป็นรูปใดจะทำให้คนในบ้าน มีฐานะการเงินมั่นคง


เรื่องจาก Forward Mail

2552/02/21

ให้...ดอกโบตั๋นปักใจผู้รับ


จากคอลัมน์ fashion-talk
โดย จักรพงษ์ วรรณชนะ jkp18wan@cscoms.com


เทศกาลฉลองตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่ของจีนยังอวลกลิ่นอายอยู่ และต้อนรับความสุขในชีวิตในปีศักราชใหม่ที่มาเยือนกับปีหมูทองไปแล้ว

หากเอ่ยถึงดอกไม้ที่มีความหมายพิเศษสำหรับชาวจีน ต้องยกให้ ดอกโบตั๋น หรือ หมู่ตาน (peony) โดยนับแต่อดีตถึงปัจจุบันชาวจีนส่วนใหญ่ถือว่า ดอกโบตั๋นมีความหมายเป็นตัวแทนของความมั่งมีศรีสุข ความร่ำรวย ความโชคดี และที่สำคัญคือเป็นตัวแทนของความยุติธรรมอันสูงส่ง

ดอกโบตั๋นยังมีประวัติอันยาว นานและมีความเกี่ยวข้องประวัติศาสตร์จีนอีกด้วย

สีที่โดดเด่นโดนตามากที่สุดก็คือสีแดงเวลเวต และสีชมพูช็อกกิ้ง นับเป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคลและนำมาซึ่งโชคลาภ ในปัจจุบันนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วเมืองจีน มีหลากสี มากมายหลายสายพันธุ์ มีทั้งกลีบชั้นเดียว กลีบซ้อนหลายชั้น และกลีบที่ซ้อนแบบพิเศษจะงดงามสุดๆ ซึ่งดูเดิร์นและดูเลดี้มากๆ เห็นทีไรขนแขนสแตนด์อัพทุกที


สนนราคาที่ไม่ได้ถูกนัก ได้ยินแล้วอาจจะต้องซู้ดปาก แต่ขอบอกว่าช่างสมเหตุสมผลยิ่ง

ในปัจจุบัน ทุกปีในช่วงเดือนเมษาฯ ที่เมืองลั่วหยาง มลฑลเหอหนาน จะมีการจัดเทศกาลดอกโบตั๋นที่คึกคัก อลังการ และมีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วโลก

ใครที่ต้องการเซอร์ไพรส์กับคนพิเศษในช่วงไชนีสนิวเยียร์นี้ ขอบอกว่าดอกโบตั๋นเข้าตากรรมการ จะหาสักช่อหรือดอกเดี่ยวสักดอกก็โดดเด่นจนสร้างความปลาบปลื้ม ปักใจให้แก่ผู้รับ

ผมว่าคุ้มค่าทุกเม็ดเงินที่ต้องจ่ายไปแน่ๆ งานนี้ขอเอาตัวเป็นประกันเลยได้ไหมครับ


ทีมาของบทความ




ฮวงจุ้ยสำหรับห้องนอน-ความรัก



การจัดห้องนอนมีผลต่อ ‘ความรัก’ และ ‘การครองคู่’ อยากให้รักแนบแน่น ชีวิตคู่ยืนนาน จัดฮวงจุ้ยห้องนอนให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์กันดีกว่า

1. เตียงนอน ควรใช้เตียงที่ทำจากไม้ เพราะเตียงนอนที่ทำจากโลหะนั้น เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของคุณ และพยายามนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ ออกห่างจากเตียงของคุณ

2. ถ้าห้องนอนของมีหน้าต่างกระจกใส ที่สามารถชมวิวสวยๆ นอกบ้านได้ ไม่ควรวางเตียงติดหรือใกล้กระจกมากเกินไป แม้ว่าคุณอยากจะนอนชมวิวภายนอกใจจะขาด เพราะพลังที่ผ่านเข้ามาจากภายนอก แม้จะไม่ทำให้คุณกับเขามีเรื่องมีราวถึงกับต้องเลิกรากัน แต่ก็จะส่งผลให้นอนไม่หลับหรือฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ

3. แสงภายในห้อง ไม่ควรจะสว่างจ้าเกินไป (หยาง) หรือสลัวทึมเกินไป (หยิน) และอย่าลืมเรื่องเสียงรบกวนด้วย เพราะจะทำให้คุณและคู่รักหงุดหงิดได้


4. ใต้เตียงนอน ไม่ควรเอาของที่ไม่ใช้แล้วไปเก็บไว้ โดยเฉพาะของที่แตกหักยับเยินห้ามเด็ดขาด! แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่มีที่จะไว้ของแล้ว ก็ให้เลือกเก็บแต่ของใหม่ๆ ที่สำคัญต้องจัดให้เป็นระเบียบ ถ้าใต้เตียงรกมากๆ หรือเก็บของหักๆไว้ จะทำให้คุณหรือหวานใจมีสุขภาพไม่แข็งแรง แถมยังมีปากเสียงกันได้บ่อยๆ ด้วย

5. หน้าต่างห้องนอน ควรใช้ม่านบังตามากกว่ามู่ลี่กันแดดที่ดูแข็ง ไม่มีความพลิ้วไหวเหมือนกับผ้า เพราะห้องนี้ต้องการบรรยากาศที่นุ่มนวล ไม่ใช่ความเป็นงานเป็นการมากนัก เชื่อกันว่าถ้าใช้ม่านบังตาติด จะช่วยเสริมโชคเรื่องความรัก

6. หาแจกันดอกไม้ มาวางไว้ในห้องนอนสักหนึ่งอัน หรือจะเป็นกระถางต้นไม้ก็ได้ กระถางควรเป็นสีขาว ส่วนต้นไม้ให้เป็นสีแดงหรือสีชมพู จะช่วยเพิ่มพลังรักให้แข็งแรงมากขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการนำต้นไม้ใหญ่ไว้ในห้องนอน



7. หัวเตียงและผนังด้านหัวเตียง สามารถออกแบบให้สวยงามได้ ถ้าเตียงตั้งตรงกับประตูทางเข้าห้องนอน ให้แขวนคริสตัลไว้ระหว่างเตียงและพื้นที่ส่วนนั้น

8. อย่าหันหัวเตียงไปทางห้องน้ำเป็นอันขาด ดวงความรักที่กำลังรุ่งโรจน์อาจจะจะพุ่งลงเหวได้ง่าย เพราะจะต้องมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไม่หยุดหย่อน

9. ไม่ควรหันปลายเท้าให้กับประตูห้องนอน เพราะเป็นสัญลักษณ์การนอนของคนตาย ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง หากปลายเตียงหันไปทางประตูห้องนอนพอดี จะมีเรื่องเดือดร้อนใจในครอบครัว สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจมีคนเจ็บป่วยอยู่เรื่อยๆ ความอบอุ่นในบ้านจะลดน้อยลง ถ้าสุดจะเลี่ยง ก็ให้แก้ไขง่ายๆ ด้วยการติดกระจกบานเล็กๆไว้ที่ปลายเตียง เพื่อสะท้อนพลังอันเลวร้ายออกไป

10. พื้นห้องนอนควรเป็นสีพื้นเรียบๆ อาจมีลวดลายสบายตาได้บ้าง แต่สีพื้นสีเดียวไปเลยจะดีที่สุด หากปูพรม อย่าเลือกพรมที่มีลวดลายฉวัดเฉวียนน่าเวียนหัว เพราะจะส่งผลให้ความรักของคุณวุ่นวาย

11. อย่าใช้ผ้าห่มสีขาว เพราะหากนำมาคลุมร่าง จะเหมือนกับสัญลักษณ์ของคนตาย ผ้าปูที่นอนสีขาวแม้จะดูสะอาดสะอ้าน แต่ก็ไม่เหมาะกับห้องนอนนัก สีขาวโพลนจะส่งผลให้พลังความรักกระจัดกระจาย เลือกผ้าปูที่นอนที่มีสีจะดีกว่า

12. หาผ้าที่ทอด้วยด้ายสีทองหรือผ้าที่เป็นสีทองวางไว้บนเตียง เนื้อผ้าที่ส่องประกายแวววาว จะช่วยให้คุณสร้างบทรักบนเตียงได้ละเมียดละไมหวิวไหวยิ่งขึ้น

13. ถ้าช่วงไหนอารมณ์ร้อน อาจจะจากเรื่องงาน เรื่องเพื่อน จนพานโมโหคนรักบ่อยๆ ให้หาชามสวยๆ ใส่ก้อนหินหรือคริสตัลวางไว้ใต้เตียงนอน จะช่วยทำให้อารมณ์เย็นลง

14. อยากให้ความรักของคุณมั่นคง ให้หาหินควอตซ์ สีขาวใส ก้อนใหญ่พอประมาณ มาวางไว้ใต้เตียง

15. อย่าติดหลอดไฟที่ให้แสงส่องเป็นลำลงมาที่เตียงเป็นอันขาด เพราะความรักของคุณจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิง น่าปวดหัว ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้แขวนสร้อยลูกปัดที่ปลายเตียง เพื่อซึมซับพลังงานที่ขัดแย้ง

16. หากคุณกำลังกังวลว่าเขากำลังจะมีกิ๊กหน้าใส ให้เปลี่ยนม่านหน้าประตูห้องนอน เป็นม่านที่ร้อยด้วยลูกปัด เชื่อกันว่าลูกปัดจะช่วยเก็บพลังงานรักให้อยู่เป็นที่เป็นทางไม่วอกแวกไปที่อื่น

17. หากเตียงนอนอยู่กึ่งกลางระหว่างประตูสองด้าน เช่น ประตูเข้าห้องและประตูห้องน้ำ ให้ย้ายตำแหน่งของเตียง หรือไม่ก็หาฉากสวยๆ มากั้น เพื่อให้พลังงานความรักนั้นรวมกันเป็นหนึ่ง

ออกรถใหม่...วันไหนดี ตามหลักฮวงจุ้ย



คนรุ่นใหม่มักไม่ใส่ใจฤกษ์ยาม จะยึดตามความสะดวกที่ขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนตัว แม้จะซื้อของ ออกรถ หรือจดทะเบียนสำคัญๆ มีความเชื่อโบราณในการออกรถ (ที่ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน) และที่สำคัญ เราควรขับรถอย่างระมัดระวังด้วยนะ


ไม่ซื้อรถวันอาทิตย์ มีความเชื่อว่า ใครซื้อรถในวันอาทิตย์ จะทำให้มีเรื่องร้อนใจหรือต้องเดือดร้อนมากแนะนำว่าควรรีบขายทิ้งแล้วค่อยซื้อใหม่

ควรซื้อรถวันจันทร์ มีความเชื่อว่า ใครซื้อรถในวันจันทร์มักโชคดีได้ลาภอยู่เสมอ ทำธุรกิจหรือค้าขายมีกำไรมากอาจมีลาภลอยมาหาอย่างคาดไม่ถึง

ไม่ซื้อรถวันอังคาร มีความเชื่อว่า ใครซื้อรถในวันอังคารมักจะมีเรื่องเดือดร้อน เป็นทุกข์มีปัญหาทำให้เสียเงินทอง (บางรายประสบอุบัติเหตุขั้นร้ายแรง)

ไม่ซื้อรถวันพุธ มีความเชื่อว่า ใครซื้อรถในวันพุธมักจะมีปัญหาต่างๆ ต้องเป็นหนี้สินเขาตลอด

ไม่ซื้อรถวันพฤหัสบดี มีความเชื่อว่าถ้าซื้อรถในวันครูจะทำให้ธุรกิจการค้าเกิดปัญหา มีอุปสรรคไม่คล่องตัวที่สำคัญอาจเกิดเรื่องในครอบครัว เช่น คู่สมรสคบชู้

ควรซื้อรถวันศุกร์ มีความเชื่อว่า ใครซื้อรถในวันศุกร์มักมีโชคมีลาภอยู่เสมอ ทำการอะไรก็สะดวกอย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะจะมีลาภและยศกำลังรอท่านอยู่

ไม่ซื้อรถวันเสาร์ มีความเชื่อว่า ถ้าซื้อรถวันเสาร์ ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุถึงกับชีวิต

ไม่ซื้อรถวันพระ เป็นความเชื่อมาตั้งแต่โบราณ ไม่ให้ซื้อรถซื้อเรือในวันพระ เพราะอาจจะทำให้ไม่สบายหรือล้มป่วยได้ ศัตรูหรือคู่แข่งจะพากันอิจฉาและอาฆาต


Tips ฮวงจุ้ย

คนที่เกิดวันอาทิตย์ วันที่ควรซื้อหรือจองรถมีเพียงวันเดียวคือ วันจันทร์ (ส่วนวันศุกร์นั้นเป็นวันกาลกิณี ต่อให้ฤกษ์ดีอย่างไรก็ไร้ผล ให้หลีกเลี่ยงซะ)

คนที่เกิดวันอังคาร วันที่ควรซื้อรถหรือจองรถมีเพียงวันเดียวคือ วันศุกร์ (ส่วนวันจันทร์นั้นเป็นวันกาลกิณีต่อให้ฤกษ์ดีอย่างไรก็ไร้ผล ให้หลีกเลี่ยงเสีย)


ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร : Lisa
ขอบคุณภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต

บ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ ตามหลักฮวงจุ้ย.


บ้านคนปีชวด (พ.ศ. 2527, 2515 และ 2503)
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีชวด ควรมีเครื่องดนตรีอย่างน้อย 1 ชิ้น อยู่ในบ้าน เช่น ขลุ่ย เมาท์ออร์แกน เปียโน กีตาร์ ฯลฯ แม้จะเล่นไม่เป็น เพียงมีไว้ประดับบ้านก็ถือว่าถูกโฉลก นำโชคดีมาสู่ในบ้าน แต่ถ้าเป็นเครื่องดนตรีที่สมาชิกในบ้าสามารถเล่นได้จริงๆ หรือมีการเล่นร่วมดนตรีด้วยกันภายในครอบครัว เสียงดนตรีที่ดังขึ้นดุจดั่งเสียงสวรรค์ที่เรียกทรัพย์นับล้านเข้าสู่บ้านคนปีชวด

บ้านคนปีฉลู (พ.ศ. 2528, 2516 และ 2504)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีฉลู ไม่ควรมีอะไรที่เป็นทรงกลม ยกเว้นโต๊ะอาหารที่เป็นโต๊ะกลมได้ นอกนั้นแล้วสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านควรเป็นเหลี่ยมเป็นมุมทั้งหมด ตัวอย่างเช่น นาฬิการทรง 8 เหลี่ยม อ่างบัวทรง 5 เหลี่ยม กระถางต้นไม้ทรง 4 เหลี่ยม รวมไปถึงลวดลายของเหล็กดัด วอลล์เปเปอร์ ก็ควรเป็นรูปทรงเหลี่ยม หลีกเลี่ยงรูปวงกลมและรูปโค้งมนต่างๆ

บ้านคนปีขาล (พ.ศ. 2529, 2517 และ 2505)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของคนปีขาล ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ควรมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หน้าบ้านควรมีต้นไม้ใหญ่ หรือ สัญลักษณ์ที่ใหญ่โตโดดเด่น อาทิ มีประตูหน้าบ้านบานใหญ่ มีโอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ เป็นต้น ในห้องรับแขกควรมีรูปภาพพระอาทิตย์ขึ้นประดับไว้ จะช่วยเพิ่มพลังอำนาจ และบารมีให้มีมากขึ้นกว่าเดิม

บ้านคนปีมะโรง (พ.ศ. 2531, 2519 และ 2507)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีมะโรง ควรจะมีชื่อบ้าน โดยเป็นชื่อที่เป็นมงคลและถูกต้องตามหลักทักษาของเจ้าของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะใช้ชื่อหรือนามสกุลของเจ้าของบ้านมาเป็นชื่อบ้าน ซึ่งถ้าชื่อหรือนามสกุลถูกโฉลกอยู่แล้ว ชื่อบ้านก็ย่อมจะดีตามไปด้วย ชื่อบ้านต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะของบ้านและ ผู้อยู่อาศัย ห้ามขัดแย้ง หรือตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น บ้านทาสีฟ้าทั้งหลังแต่ตั้งชื่อบ้านว่าเรือนสีชมพู หรือ บ้านอยู่ติดภูเขา แต่ตั้งชื่อบ้านว่า บ้านริมทะเล ลักษณะอย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสมจะทำให้อับโชค พบเจอแต่อุปสรรคขวากหนามในการดำเนินชีวิต
บ้านคนปีเถาะ (พ.ศ. 2530, 2518 และ 2506 )
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีเถาะ ควรเป็นบ้านที่มีความร่มรื่น ร่มเย็น มีสนามหญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ อ่างบัว ตัวบ้านมีความโปร่งโล่งสบาย มีแสงแดดและแสงสว่างพอประมาณ ในห้องนอนหรือห้องรับแขก ควรมีตุ๊กตาเซรามิครูปกระต่าย รูปไก่ รูปไข่ รูปหมู รูปเด็กทารก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย จะช่วยให้เงินทองไม่รั่วไหลไปไหน ได้ปรับเงินเดือน ได้เลื่อนตำแหน่ง ได้พบกับความสมหวังและสมปรารถนาทุกประการ

บ้านคนปีมะเมีย (พ.ศ. 2533, 2521 และ 2509)
เพื่อความเจริญก้าวหน้า บ้านของคนปีมะเมีย ต้องมีความเคลื่อนไหว เช่น มีธงโบกสะบัด มีน้ำพุ มีกังหัน มีโมบาย มีสุนัขหรือแมววิ่งเล่นกัน มีต้นไม้ใหญ่ที่โอนเอนตามสายลมภายในบ้าน ก็ควรมีสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหวหรือความเร็ว เช่น รถยนต์โบราณ รถไฟ เรือใบ เรือสำเภา เครื่องบิน จรวด ฯลฯ เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านที่สงบ นิ่งและเงียบเกินไป จะทำให้คนปีมะเมียอึดอับและอับโชค
บ้านของคนปีมะเส็ง (พ.ศ. 2532, 2520 และ 2508)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีมะเส็งต้องมีแสงสว่างอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ต้องให้ความรู้สึกว่าสว่างอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ควรจะมีไฟภายนอกบ้านอย่างน้อยสัก 1 ดวงที่เปิดให้ความสว่างอยู่ตลอดคืนโดยเฉพาะไฟดวงไหนหากเปิดไว้แล้วนอกจากจะให้ความสว่างแก่บ้านของเรา ยังให้ความสว่างและความปลอดภัยแก่บ้านหลังอื่นและผู้ที่เดินทางผ่านไปมา ถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง บ้านมืดๆ จะนำภัยอันตรายและโชคร้ายมาสู่คนปีมะเส็ง

บ้านคนปีมะแม (พ.ศ. 2534, 2522 และ 2510)
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีมะแม ควรเป็นบ้านที่สะสมงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพวิวทิวทัศน์ งานหล่อ งานปั้น งานแกะสลัก หนังสือ ซีดีเพลง ดีวีดีภาพยนตร์ ฯลฯ ล้วนถูกโฉลกและนำโชคดีมาสู่คนปีมะแม และถ้าผลงานศิลปะเหล่านั้น เป็นฝีมือของเจ้าของบ้านด้วยแล้ว จะยิ่งถูกโฉลกและโชคดีเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

บ้านของคนปีวอก ( พ.ศ. 2523, 2511 และ 2499)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีวอก ควรเป็นบ้านที่มีการขยับขยาย เพิ่มเติม ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลาเพื่อให้สอดคล้องสมดุลกับผู้อยู่อาศัย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นบ้านที่มีการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น มีต้นไม้ใหม่ๆ มาปลูกเพิ่มอยู่เสมอมีเฟอร์นิเจอร์ใหม่มาทดแทนของเดิมที่ชำรุดเสียหาย มีเก้าอี้ม้าหินชุดใหม่มาตั้งแต่เพิ่มในสวน มีการเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ทุกๆ 2 ปี และทาสีบ้านใหม่ทุกๆ 3 ปี

บ้านของคนปีระกา (พ.ศ. 2524, 2512 และ 2500)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีระกาต้องสวย สะอาด สดใส และดูใหม่อยู่เสมอ สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ควรจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย รั้วบ้านและอาคารภายนอกบ้านควรทาสีใหม่ทุกๆ 3 ปี ภายในบริเวณบ้าน ห้ามมีสิ่งของแตกหัก ชำรุด เสียหาย ใบไม้แห้ง ต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่เหี่ยวเฉาโรยรา โดยเด็ดขาด รอยร้าวบนผนัง หากพบเจอต้องรีบแก้ไขในทันที หลอดไฟ กลอน กุญแจ ประตู หน้าต่าง ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

บ้านของคนปีจอ (พ.ศ. 2525, 2513 และ 2501)
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีจอ ควรจะมีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนำโชคของคนปีจอ เพราะความซื่อสัตย์และแสนรู้ของสุนัข จะช่วยให้คนปีจออารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง ไม่เครียด ดังนั้นไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไรก็ล้วนแต่โชคดีมีความสำเร็จ สุนัขที่เลี้ยงไว้ไม่ควรเลี้ยงตัวเดียว ควรเลี้ยงตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ก็อย่าให้มากเกิน ควรให้เหมาะสมกับบริเวณบ้านและกำลังในการดูแลเอาใจใส่

บ้านของคนปีกุน (พ.ศ. 2526, 2514 และ 2502)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีกุน ต้องมีห้องครัวที่กว้างขวาง สะอาด สะดวก สบาย มีอุปกรณ์ในการทำครัวครบครัน เพราะการเข้าครัวทำอาหารของคนปีกุน ถือเป็นเรื่องมงคลนำมาซึ่งโชคลาภ ความสำเร็จ และความร่ำรวย และถ้ามีตุ๊กตาเซรามิครูปหมูสีขาวหรือสีชมพู สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ วางไว้ในห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหารด้วย จะยิ่งถูกโฉลก โชคดี รวย รวย รวย เพิ่มมากขึ้น


ข้อมูล : Forward Mail
ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต

ร่ำรวยด้วย ฮวงจุ้ย(ความจริง)



ถ้าคำพูดที่ว่า 'ดวงชะตาฟ้าลิขิต' นั้นเป็นความจริงโดยทั้งหมด ศาสตร์ด้าน 'ฮวงจุ้ย' คงไม่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่เจ้าสัว นักธุรกิจ ตลอดจนผู้คนหลายเชื้อชาติทั่วโลก สืบเนื่องจากความเชื่อที่ว่า ฮวงจุ้ยเป็นเคล็ดลับสำคัญในการแก้ชะตากรรม โดยไม่ยอมจำนนต่อลิขิตฟ้า ที่นักปราชญ์ชาวจีนคิดค้นขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว


ทุกวันนี้ 'ฮวงจุ้ย' จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญไม่น้อย ในการปลูกสร้างบ้านเรือน อาคารสำนักงาน และสถานที่ราชการต่างๆ แม้แต่ตึกไทยคู่ฟ้า (ทำเนียบรัฐบาล) โดยมีความเชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภ ความสุขและความสำเร็จมาสู่ผู้อยู่อาศัย

หลักการของวิชานี้อธิบายถึงปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของชีวิตมนุษย์อันมีอยู่ 3 ประการ ประกอบด้วย ชะตามนุษย์ คือ ฝีมือ ความสามารถ และการกระทำของมนุษย์ ชะตาฟ้า คือ เวลาเกิด หรือ ดวง และ ชะตาดิน คือ พลังงานของสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อคน หรือ ฮวงจุ้ย

ทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ศาสตร์จีนโบราณมีที่ทางยืนของตนเองในหมู่ผู้ประกอบการธุรกิจบ้านเราตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงระดับเจ้าสัว

เทรนด์ฮิต นิรันดร์กาล

รายชื่อมหาเศรษฐีเมืองไทยที่นิยมใช้ 'ฮวงจุ้ย' เป็นองค์ประกอบธุสำคัญในการทำธุรกิจนั้นสามารถร่ายยาวออกมาเป็นหางว่าว เอาแค่ที่รู้จักกันดีเริ่มตั้งแต่มหาเศรษฐีไทยที่รํ่ารวยติดอันดับโลกอย่าง เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของซี.พี. ถึงกับจ้างซินแสมาดูโหงวเฮ้งในการสัมภาษณ์พนักงาน รวมทั้งว่าจ้างซินแสจากจีนมาดูฮวงจุ้ยในโครงการ

แม้แต่นักเรียนนอกอย่าง 'เสี่ยปั้น' บัณฑูร ลํ่าซำ ก็ยอมเปลี่ยนโลโก้ธนาคารกสิกรตามคำแนะนำซินแส ตลอดจนย้ายสำนักงานใหญ่ไปติดริมแม่น้ำดังที่อาจารย์มาศอธิบายว่า ณ ที่ตั้งนั้นเป็นบริเวณที่เรียกกันว่า 'ท้องมังกร' เป็นจุดถุงเงินถุงทองช่วยสะสมความมั่งคั่งและให้พลังสูงสุด ประกอบกับความสูงชะลูดของอาคารยังหมายถึงการเติบโต ขณะที่ยอดปลายแหลม หมายถึงความโดดเด่น ชื่อเสียงโด่งดัง อีกทั้งเสี่ยปั้นยังเลือกเจราจาธุรกิจกับคู่ค้าที่สาขาสะพานควายเท่านั้น เพราะเชื่อว่างานจะสำเร็จราบรื่น

อาจารย์มาศยังยกตัวอย่างเพิ่มเติมถึงบ้าน เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี (เบียร์ช้าง) ว่าหน้าประตูรั้วไม่ได้วางขนานกับถนนด้านหน้าตรง แต่ใช้วิธีบิดเฉียงให้ได้องศาทิศทางที่ดี ซึ่งองศานี้ในทางฮวงจุ้ยเรียกว่า 'ซำง้วงปุ๊กป้าย' หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง 180 ปีไม่มีวันเสื่อม แถมยังมีการตั้งช้างสัมฤทธิ์ไว้ด้านซ้าย-ขวาของประตู เพื่อช่วยดักรับกระแสพลังได้มากขึ้น

“ถ้าถามว่าทำไมต้องเชื่อซินแสฮวงจุ้ย เพราะเขาศึกษาสถิติเรื่องนี้มานาน มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษา ก็เหมือนกับการมีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ แต่นี่เป็นด้านฮวงจุ้ย ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหารภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำ หน่ายผลิตภัณฑ์ซุปไก่สกัดและรังนกแบรนด์ให้ความเห็น

เธอขยายความว่า ในความสำเร็จมีองค์ประกอบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน วิธีการลงทุน โอกาสทางตลาด การใช้ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรไม่เว้นแม้แต่ศาสตร์อย่างฮวงจุ้ย โดยทุกปีเธอจะเชิญซินแสมาปรับฮวงจุ้ยให้เหมาะสม แม้จะดูเป็นเรื่องของความเชื่อ แต่อย่างน้อยก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนที่ทำงาน

"ศาสตร์ 'ฮวงจุ้ย' เป็นเรื่องของ 'สถิติ' ที่นำมาช่วยให้เกิดความสมดุลในสิ่งแวดล้อมรอบตัว อยู่สบาย ไม่ว่าเป็นเรื่องของการทำเลบ้าน สำนักงาน โรงงาน ส่วนตัวเองก็ได้ศึกษาบ้าง และนำมาใช้กับเรื่องใกล้ตัว เช่น เลือกสีรถยนต์หรือเลือกแพกเกจสินค้าใหม่" ลักขณายังย้ำว่า 'ศาสตร์ด้านนี้ เชื่อได้แต่อย่างมงาย โดยไม่ศึกษาข้อมูลอื่นๆ ประกอบ'

เช่นเดียวกับ สันติ ภิรมย์ภักดี เจ้าของเบียร์สิงห์ที่บอกว่า ทุกปีในห้องทำงานของเขาจะมีการปรับฮวงจุ้ยช่วงวันเกิดเพื่อความสบายใจและยังเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศรูปแบบหนึ่ง แต่ห้ามเด็ดขาดไม่ให้มีการถ่ายรูปภายในห้องทำงานตามความเชื่อของเขา

ส่วน ไกรเสริม โตทับเที่ยง ทายาทรุ่นสองของตระกูลโตทับเที่ยง ผู้ผลิตและจำหน่ายปลากระป๋อง 'ปุ้มปุ้ย' ยอมรับว่า ทุกครั้งที่ซินแสแนะนำให้ปรับฮวงจุ้ยทางครอบครัวจะทำทันที โดยยกตัวอย่างโรงงานที่ได้มีการปรับที่ตั้งเสาตามที่ซินแสแนะนำ

เมื่อถามถึงผลที่ตามมานั้น เขาบอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยวัดผลว่าปรับแล้วดีขึ้นมากน้อยขนาดไหน แต่ 'ดี' ในแง่ของความรู้สึก "มันก็ดีนะ สมมุติว่าเรามีทางเลือกซึ่งมันเป็นไปได้หมด แต่เราตัดสินใจไม่ได้ พอมันมีอะไรที่ช่วยเราตัดสินใจ ตอบโจทย์ ฟันธง มันก็จบ"

เขายกตัวอย่างประกอบว่า ถ้ากำลังคิดจะทาสี แล้วเลือกไม่ได้ว่าจะใช้สีเขียวหรือสีแดง แต่ถ้าซินแสแนะนำมาว่าให้ใช้สีแดงก็จบ เพราะจริงๆ มันทาสีอะไรก็ได้ ก็ง่ายดีไม่ต้องไปหาเหตุผล แถมยังสบายใจ

"เรื่องฮวงจุ้ยผมไม่ได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งแต่ผมรู้ว่า มันเป็นเรื่องของอารมณ์ ซึ่งเขาพยายามจะบอกว่า ทำให้ทุกอย่างมันบาลานซ์ ทำแล้วโล่งโปร่งสบายและเหมาะสม แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ให้ตั้งเสาตรงนี้เราคงไม่ทำ"

อย่างเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซินแสแนะนำว่าทิศใต้ไม่ดี ให้เปลี่ยนประตูทางเข้าบ้าน แม้จะมีความสนใจในศาสตร์ด้านนี้ แต่ไกรเสริมก็บอกว่า "โอ้โห...เรื่องใหญ่เลย คุณพ่อผมเป็นคนมีเหตุผลนะ ไม่เหมือนคนจีนสมัยก่อนที่มีการทำประตูทางออกไว้ทุกด้าน เพราะเขารู้หลักฮวงจุ้ยอยู่แล้วก็แค่เปลี่ยนประตูเข้า-ออกซึ่งทำได้เลย เพราะมีประตูอยู่แล้ว แต่บ้านคนธรรมดาสมัยนี้จะให้เปลี่ยนประตูบ้านทุกปีคงทำไม่ได้ เราจะทำตามทุกอย่างคงไม่ได้เพราะต้องรื้อทำประตูบ้านใหม่ สุดท้ายถาม ซินแสว่า มีวิธีแก้ยังไงอีก ทางซินแสเขาก็ให้เอาของมาวางไว้บนหลังคาบ้านแทน ทุกท้ายก็จบลงได้ด้วยดี"

พูดง่ายๆ ว่าเชื่อได้ แต่ต้องทำได้ด้วย

เศรษฐกิจขาลง ฮวงจุ้ยช่วยได้?

"ส่วนคนที่ไม่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ย ไม่ว่าเศรษฐกิจดีหรือร้ายก็ไม่ได้สนใจจะปรึกษาซินแสแต่อย่างใด ซึ่งก็เท่ากับว่าเสียโอกาสไป 1 ใน 3 ของชีวิต แต่เรื่องนี้ก็จะไปโทษใครไม่ได้ เพราะซินแสในบ้านเราส่วนใหญ่มักไม่ได้ศึกษาถึงรากเหง้าที่มาที่ไปของวิชาอย่างแท้จริง จึงเอาไสยศาสตร์และความเชื่อโบราณมาเขียนเป็นตำราขายทั่วบ้านทั่วเมือง เลยพลอยทำให้คนหัวสมัยใหม่หลายคนหันหลังให้กับภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของนักปราชญ์ในอดีต"

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่คนเรายังมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับความเชื่อ ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยก็ยังคงมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน บอกได้เพียงว่า หากจะเชื่อไว้บ้างคงไม่เป็นไร ขอแต่อย่าหลงงมงายมากเกินไปก็พอ

ขอบคุณข้อมูล : กรุงเทพธุรกิจ

ไท่ซุ่ยเทพเจ้าประจำปี


สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำทุกๆ ขึ้นปีใหม่ก็คือ การหาตำแหน่งสถิตของไท่ซุ่ย หรือราหูประจำปี เพื่อจะได้ใช้สัญลักษณ์มาระงับโทสะของไท่ซุ่ยในตำแหน่งนั้นๆ และประกอบพิธีกรรมอย่างถูกต้อง

ไท่ซุ่ยเป็นที่เคารพในฐานะ “เทพเจ้าประจำปี” ไท่ซุ่ยมีทั้งหมด 60 องค์ โดยจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาทำหน้าที่ดูแลความเป็นไปของโลกในแต่ละปี ดังนั้นการปะทะหรือทำให้ไท่ซุ่ยโกรธจึงก่อให้เกิดผลร้ายแรงแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับองค์ไท่ซุ่ยประจำปีนั้นๆ

ไท่ซุ่ยประจำปี 2552 คือ แม่ทัพหงเย่าติน ผู้เป็นที่เลื่อมใสในด้านความกล้าหาญและกลยุทธ์อันรอบคอบ ทั้งยังมีเมตตาอีกด้วย แม้จะเป็นเทพเจ้าฝ่ายบู๊ แต่ก็มีอารมณ์อ่อนโยนและไม่ค่อยโกรธขึ้ง ดังนั้นจึงเป็นไท่ซุ่ยที่ใจดีต่อผู้ที่ไปรบกวนตำแหน่งสถิตของท่านหรือปะทะกับท่าน ไท่ซุ่ยปีนี้สถิตอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 1 ซึ่งเป็นตำแหน่งของนักษัตรฉลู และจะคอยช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาและผู้ที่ต้องการการสนับสนุน

ฮวงจุ้ยของไท่ซุ่ย

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของฮวงจุ้ยแล้ว เรื่องของไท่ซุ่ยเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาก ไม่ว่าไท่ซุ่ยประจำปีนั้นๆ จะใจดีมีเมตตาแค่ไหนก็ตาม ความสำคัญของไท่ซุ่ยถูกเน้นไว้ในตำราที่มีชื่อเสียง ซึ่งว่าด้วยเรื่องการสร้างความสอดคล้องในเรื่องของเวลาและการแยกแยะทิศต่างๆ ซึ่งรวบรวมขึ้นภายใต้การอุปถัมภ์ของจักรพรรดิเฉียนหลงในช่วงรัชสมัยของพระองค์ตอนกลางศตวรรษที่ 18 จักรพรรดิเฉียนหลงมีความเชื่อถือเรื่องโหราศาสตร์และฮวงจุ้ยอย่างมาก และได้มีบัญชาให้หาทางไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งทั้งหลายเกี่ยวกับวิธีที่ถูกต้องในการเลือกเวลาและการจัดวางบ้าน จากนั้นก็ให้รวบรวมมาและจัดเป็นหมวดหมู่อย่างเหมาะสมเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง และตำรานี้ก็ได้ยืนยันว่าแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องไท่ซุ่ยเป็นที่รู้จักตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (กว่า 2,000 ปีมาแล้ว) และบอกไว้ว่าตำแหน่งที่ไท่ซุ่ยสถิตอยู่และตำแหน่งที่ไท่ซุ่ยเพิ่งเคลื่อนผ่านมาถือเป็นตำแหน่งนำโชค

ดังนั้น ก็หมายความว่าการอยู่ในตำแหน่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 1 ของบ้าน (ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไท่ซุ่ยสถิตอยู่ในปี 2552) และในตำแหน่งทิศเหนือ 2 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไท่ซุ่ยเพิ่งจากมา จะนำโชคมาให้ อันที่จริงแล้วผู้เชี่ยวชาญที่ได้ปฏิบัติตามหลักฮวงจุ้ยของไท่ซุ่ยมาเป็นเวลาหลายปี ต่างเห็นพ้องว่าในปี 2552 คนปีฉลูที่อยู่ในตำแหน่งที่ไท่ซุ่ยสถิตอยู่จะได้รับการสนับสนุนจากไท่ซุ่ย แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่มีห้องหรือสำนักงานอยู่ในตำแหน่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 1 ก็จะได้รับการเกื้อหนุนจากไท่ซุ่ยทุกคน

ในตำราอธิบายว่า การอยู่ในตำแหน่งที่ไท่ซุ่ยกำลังจะโคจรไป ซึ่งก็คือตามเข็มนาฬิกาตามลำดับของนักษัตร จะนำโชคร้ายมาให้ และผู้ที่อยู่ในตำแหน่งที่ปะทะกับไท่ซุ่ยโดยตรงก็จะโชคร้ายด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เพราะการ “เผชิญหน้า” กับไท่ซุ่ยจะถือว่าเป็นการกระทำที่ท้าทาย ดังนั้นคำแนะนำสำหรับปี 2552 ก็คืออย่าหันหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 1 โดยตรง ทิศนี้ถือเป็นทิศอัปมงคล แม้ว่าจะเป็นทิศนำโชคประจำตัวของคนกลุ่มตะวันตกตามหลักฮวงจุ้ยเรือนธาตุทั้งแปดก็ตาม การเผชิญหน้ากับไท่ซุ่ยมักจะนำเคราะห์ร้าย ความล้มเหลว และการสูญเสียมาให้ เมื่อคุณหันไปปะทะกับไท่ซุ่ย ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ไม่ราบรื่น เพราะจะเกิดอุปสรรคที่คาดไม่ถึง และเพื่อนฝูงก็จะเป็นศัตรูกับคุณ

ดังนั้น เราไม่ควรจะหันหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือไม่ว่าในกรณีใดๆ ตลอดปี 2552 แต่ควรพยายามหันหลังให้ทิศตะวันออกเฉียงเหนือแทน

สยบไท่ซุ่ยในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

ปี 2552 ไท่ซุ่ย หรือเทพเจ้าประจำปีสถิตอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 1 ซึ่งเป็นตำแหน่งของนักษัตรฉลู ลักษณะเช่นนี้บ่งชี้ว่าคนปีฉลูจะได้รับการสนับสนุนและพรจากไท่ซุ่ย อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย คนปีฉลูก็ควรพกเครื่องรางเพื่อป้องกันไม่ไปกระตุ้นโทสะของไท่ซุ่ยโดยบังเอิญ

ทิศที่อยู่ตรงข้ามกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือคือทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตำแหน่งของนักษัตรมะแม ดังนั้นก็หมายความว่า คนปีมะแมอยู่ในแนวปะทะกับไท่ซุ่ยโดยตรงในปีนี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้คนปีมะแมเผชิญหน้ากับไท่ซุ่ยพอดี และทำให้เกิดเคราะห์ร้ายได้ จึงต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

ส่วนคนปีมะโรงและคนปีจอ ก็ได้รับผลกระทบจากไท่ซุ่ยทางอ้อมเช่นกัน

ดังนั้น ในปี 2552 คนปีฉลู มะแม มะโรง และจอ ควรพกเครื่องรางไท่ซุ่ยติดตัวไว้เพื่อป้องกันเคราะห์ร้ายต่างๆ ที่เกิดจากการไปรบกวนไท่ซุ่ยโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ ทุกๆ บ้านก็ควรนำพี่เยาหยก หรือพี่เยาที่แกะจากหินล้ำค่าอื่นๆ มาวางไว้ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และสำหรับคนปีมะแม ให้นำพี่เยาไปวางไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยตั้งให้หันหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อเป็นการระงับโทสะไท่ซุ่ย และทุกๆ คนควรจะหลีกเลี่ยงการนั่งหันหน้าหรือนอนชี้ศีรษะไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือในปีนี้ด้วย เพราะการทำเช่นนั้นเท่ากับการท้าทายเทพเจ้าประจำปี และจะส่งผลร้ายมาให้ได้

15 หลักฮวงจุ้ยในที่ทำงานสำหรับสาวทันสมัยทุกยุค


หากใครกำลังว้าวุ่นกังวลจิตกับเรื่องการงานไม่มีทางออก เพื่อนร่วมงานไม่ได้ดั่งใจ เจ้านายเจ้าอารมณ์ ฯลฯ ลองจัดออฟฟิศตามหลักฮวงจุ้ยคลายเครียดกันดีไหม เริ่มต้นง่ายๆ ที่โต๊ะทำงานของคุณเลย
การอยู่ในที่ทำงานเป็นเวลานานๆ ทำให้เราอาจเสียสุขภาพได้ ดังนั้นควรปรับแต่งให้เหมาะสม

1. โต๊ะทำงานของเจ้าของกิจการหรือผู้บริหาร ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ดีจะส่งผลให้ธุรกิจที่ทำอยู่ประสบความสำเร็จ จึงควรนั่งอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจในการควบคุมมากที่สุดคือ ตรงมุมห้องที่ทแยงกับประตูทางเข้าห้องทำงาน

2. สำหรับพนักงานทั่วไป ควรเลือกโต๊ะที่ทแยงมุมกับประตูมากที่สุดเช่นกัน แต่ต้องเห็นประตูและไม่หันหลังให้ประตู เพราะเชื่อกันว่าเพื่อนร่วมงานจะแทงข้างหลัง

3. บรรยากาศภายในห้องทำงาน ควรจัดแต่งให้มีแสงสว่างและควรจัดดอกไม้ หรือแขวนรูปภาพ เพื่อเพิ่มบรรยากาศภายในห้องทำงานให้แลดูสดใส มีพลังและมีชีวิตชีวา ยามเหนื่อยล้าจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ด้วย

4. ตำแหน่งของมุมทรัพย์ หรือมุมร่ำรวยมั่งคั่ง เมื่อเข้าห้องไปแล้วจะอยู่มุมซ้ายมือสุด ถ้ามี รูปปั้นเสือขาว ตั้งอยู่ในห้องทำงานก็ยิ่งจะส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงในธุรกิจที่ประกอบอยู่


5. ถ้านั่งทำงานเผชิญหน้ากับเสา ที่เรียกว่า “มุมเสาศรพิฆาต” ให้ทำลายพลังอัปมงคลด้วยแท่งคริสตัล ว่ากันว่า การหา รูปหล่อสิงห์หรือคริสตัลรูปมังกร มาตั้งไว้ที่ด้านซ้ายของโต๊ะทำงาน จะช่วยแก้การนินทาว่าร้ายของเพื่อนร่วมงานได้เช่นกัน

6. โต๊ะทำงานควรเป็นโต๊ะที่ด้านล่างปิดทึบทั้งสามด้าน และการจัดโต๊ะให้ยึดหลัก ซ้าย (มังกร) ต้องสูงกว่าขวา (เสือขาว) เช่น จอ Monitor กองเอกสารควรอยู่ซ้ายมือ ปากกา Mouse มุมอุปกรณ์ที่มีส่วนไม่สูงมากควรวางอยู่ด้านขวามือ

7. Screen Server ไม่ควรมีรูปเป็นมุมแหลมหรือ X-Cross ควรเป็นรูปปลาว่ายน้ำเคลื่อนไหวตลอดเวลาเป็นดีที่สุด

8. ควรมี ต้นไม้เล็กๆ บริเวณ Monitor เพื่อลดความเข้มของสนามแม่เหล็ก และหาพืชขนาดกะทัดรัดที่สามารถปรับสภาพอากาศให้ดีมาตั้งไว้ตรงโต๊ะทำงาน หรือตามมุมห้องต่างๆ เช่น ต้นเงินไหล บอสตันเฟิร์น หรือฟิโลเดนดอล เป็นต้น

9. เก้าอี้ ควรใช้แบบไม่มีล้อ และพนักพิงหลังสูง

10. ถ้าเป็นห้องทำงานส่วนตัว ก็ให้ตั้งตัวมังกรไว้ที่ริมผนังห้องด้านซ้ายมือ (ยืนกลางห้อง หันหน้าไปทางประตู) สิ่งสำคัญคือ หันมังกรออกด้านนอก อย่าหันใส่ตัว ส่วนการเลือกขนาดมังกรให้ดูเหมาะสมกับสถานที่เป็นหลัก

11. ลักษณะโต๊ะทำงานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมาะสมที่สุด โต๊ะทรงกลมจะทำให้นั่งทำงานได้ไม่นาน เหมาะกับการประชุมมากกว่า

12. โต๊ะรูปตัวแอล “L” เหมาะกับพนักงานที่ทำงานใช้ความคิดเยอะ ด้านฐานของตัว L ที่เป็นตำแห่งไกลตัวคนนั่งที่สุดควรใช้วางคอมพิวเตอร์ (รูปประกอบ) เพราะคอมพิวเตอร์ทำให้เราไม่ค่อยสื่อสารกับคนอื่น

13. ระวังอย่าจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ไว้ใกล้หน้าต่างเกินไป เพราะจะทำให้แสงสะท้อนจากหน้าจอเข้าตาได้
14. ควรเปิดหน้าต่างให้แสงสว่างจากธรรมชาติเข้าสู่ห้องทำงานบ้าง นอกจากจะประหยัดไฟแล้ว ยังทำให้อากาศถ่ายเท รู้สึกมีชีวิตชีวา แถมร่างกายได้รับวิตามินดีอีกด้วย เพราะคนทำงานใต้ฟลูออเรสเซนต์มากๆ จะทำให้สมองล้า ร่างกายอ่อนแอ ปวดหัวง่าย สายตาเสีย และเป็นบ่อเกิดของความเครียดในที่สุด


15. การใช้สีในที่ทำงานควรมีความสมดุลของแต่ละธาตุ เช่น สีเขียวของธาตุไม้ หมายถึงการเติบโตและการพัฒนา สีแดงของธาตุไฟ หมายถึงการขยับปรับเปลี่ยนเคลื่อนไหว กระฉับกระเฉง สีเหลืองของธาตุดิน หมายถึงความฉลาด มีปัญญา และมีเหตุผล สีน้ำตาลของธาตุดิน หมายถึงความมั่นคง สีขาวของธาตุเหล็ก หมายถึงการเริ่มต้นที่สดใส และสีดำของธาตุน้ำ หมายถึงการค้นหาความลับ


จากคอลัมน์ Chic in the office
นิตยสารสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 564 ปักษ์แรก เดือนสิงหาคม 2549

สร้างรั้วบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ทีถูกต้อง



1. ห้ามสร้างรั้วบ้านก่อนสร้างบ้าน เป็นอันขาด
ข้อห้ามนี้คงเคยได้ยินกันมาบ้าง ในตำราให้เหตุผลเอาไว้ว่าเหมือนสร้างคุก รอคนเข้าไปอยู่เพราะกำแพงล้อมทั้งสี่ด้านก็ไม่ต่างไปจากคุกนั่นเอง หลักการสร้างบ้านจะต้องสร้างจากด้านในขยายไปสู่ด้านนอกจึงจะถือว่าถูกต้อง รั้วจึงเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะสร้าง


2. รั้วโปร่งดีกว่าทึบ
การสร้างรั้วโปร่งจะให้ความรู้สึกสบายไม่อึดอัดกับผู้อยู่อาศัยในบ้านการไหลเวียนของลมที่พัดเข้าสู่บ้านก็จะได้ประโยชน์เต็มที่ แต่ถ้าเป็นกรณี ของบริษัท โรงงาน โกดังเก็บของ อาจจำเป็นจะต้องสร้างรั้วทึบเพื่อป้องกันโจรขโมย เพราะฉะนั้นการสร้างรั้วจึงต้องดูที่ความจำเป็นและประโยชน์ใช้สอยด้วย
3. ห้ามสร้างรั้วสูงหรือต่ำเกินไป
การสร้างกำแพงรั้วสูงจะปิดบังลมที่พัดเข้าบ้าน และผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่ในที่คุมขัง การสร้างรั้วสูงส่วนใหญ่จะเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่มากๆ แล้วตัวบ้านไม่ได้อยู่ชิดรั้วมากจนเกินไปความรู้สึกอึดอัดก็จะลดน้อยลง ถ้าสร้างรั้วต่ำก็ล่อแหลมต่อการถูกโจรขโมยขึ้นบ้าน เพราะฉะนั้นจึงควรกำหนด ความสูงของรั้วให้อยู่ในระดับที่พอดี

4. ห้ามเจาะช่องหน้าต่างที่กำแพงรั้ว
ถ้ารั้วเป็นกำแพงทึบ การเจาะ ช่องที่กำแพง ถือเป็นข้อห้าม เพราะจะทำให้บ้านนั้นจะเก็บทรัพย์เอาไว้ไม่อยู่ นอกจากนี้ บ้านยังขาดความมั่นคง โจรขโมยสามารถมองเห็นภายในบ้านได้ง่าย

5. รั้วบ้านห้ามทำเป็นลูกกรงซีกหรือเหล็กแหลม
ลักษณะของรั้วลูกกรงที่มีเหล็กแหลมอยู่ด้านบนคนที่อยู่ในบ้านก็ไม่ต่างไปจากสัตว์ที่ถูกขังอยู่ในกรงหรือกรณีที่เอาเศษแก้วไปเสียบเอาไว้บนขอบรั้ว กำแพงเพื่อป้องกันขโมยปีกเข้าบ้านก็จะเข้าข่ายเดียวกันในทางฮวงจุ้ยถือว่าไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง ถ้าจะใช้รั้วแบบนี้ ควรจะมีการแต่งลวดลายโค้งวงกลมเสริมเข้าไปยอดบนที่มีลักษณะลูกศรที่แหลมคมก็ใช้วงกลมใส่แทนเข้าไปเพื่อลดความรู้สึกก้าวร้าว ของความแหลมคมลง

6. วัสดุในการสร้างรั้วเป็นไม้ดีที่สุด
การสร้างรั้วบ้านโดยใช้วัสดุที่เป็นไม้จะให้ความรู้สึกที่ดีและเหมาะกับบ้านอยู่อาศัยมากที่สุด เพราะไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติโดยตรง คนในบ้าน จะรู้สึกใกล้ธรรมชาติมากกว่ารั้วที่เป็นปูนหรือเหล็ก แต่ในปัจจุบันรั้วบ้านส่วนใหญ่ จะวัสดุที่เป็นปูนผสมเหล็กเพราะแข็งแรงกว่า และประหยัดกว่าการใช้ไม้ที่มีราคาค่อนข้างแพง ถ้ารั้วจะเป็นปูนหรือเหล็กก็คงไม่ผิดอะไรขอให้แข็งแรงเป็นใช้ได้

7. การปลูกต้นไม้ทำเป็นรั้ว
ลักษณะรั้วแบบนี้มีให้เห็นไม่บ่อยนัก เพราะคนไม่ค่อยนิยมทำกันเนื่องจากมองว่าแข็งแรงสู้รั้วปูนไม่ได้ นอกจากนี้ยังดูแลยากต้องคอยตัดแต่งต้นไม้อยู่เสมอ ส่วนใหญ่จะนิยมทำกันตามบ้านที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยดีอย่างหมู่บ้านใหญ่ ๆ เพราะไม่ต้องห่วงในเรื่องของโจรขโมยขึ้นบ้าน ในทางฮวงจุ้ยถือว่ารั้วแบบนี้เป็นรั้วธรรมชาติจริง ๆ ย่อมส่งผลดีต่อบ้านนั้นมากกว่าเสีย

8. รั้วที่ชำรุดหรือแตกร้าวเป็นลางร้าย
ในทางฮวงจุ้ยจะให้ระวังสิ่งที่เสื่อมสภาพหรือชำรุด เพราะถือเป็นลางร้ายที่บ่งบอกว่าบ้านหลังนั้นจะประสบกับปัญหาเจ้าของบ้านจะพบกับความล้มเหลวได้ รั้วบ้านที่แตกร้าวผุผังแทนความหมายของความมั่นคงที่ถูกทำลายลง เพราะสิ่งที่ป้องกันภัยจากนอกบ้านกำลังเสื่อมสภาพลง เพราะฉะนั้นจึงควรหมั่นดูแลรักษาสภาพของรั้วให้แข็งแรงและดูใหม่อยู่เสมอ

จากนั้นต่อไปคงแล้วแต่ผู้ที่อยู่บ้านเองหล่ะครับ ว่าจะอยู่อย่างไรให้มีความสุข

สิ่งมงคลคู่ตรุษจีน เสริมความเฮง


ประเพณีตรุษจีน นอกจากจะเห็นบรรดาอาหารที่มีความหมายมีความนัยดีงามแฝงไว้แล้วนั้น ในวันสำคัญนี้บรรดาอาคารบ้านเรือนจะมี สิ่งของมงคลเป็นเครื่องห้อยเครื่องแขวนประดับประดิดประดอยไว้ด้วย ทำออกมาเป็น “น้ำเต้า” “หยก” “พัด” “ถั่วลิสง” “โคมไฟ” หรือ “ภาพเขียนจีน” แม้กระทั่ง “ตุ้ยเลี้ยง” สิ่งมงคลที่ต้องซื้อหามาเป็นเจ้าของในเทศกาลนี้

ผู้รู้ด้านจีนคนเดิมถอดรหัสของบรรดาข้าวของสิ่งเหล่านี้ให้ฟังว่าสิ่งของประดับเหล่านี้จะมีสิ่งละอันพันละน้อยประกอบเข้าด้วยกัน ที่พบเห็นทั่วไป คือ “ยันต์แปด” หรือภาษาจีน ออกเสียงว่า “ผันฉัง” เป็นของสิริมงคลสื่อความหมายถึงอยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป ขณะที่มีเชือกถักอีกแบบที่พบเห็นตามศาลเจ้า เรียกว่า “กังสดาล” ถือเป็นสิ่งมงคลเช่นกันแต่ทำหน้าที่คล้ายกับยันต์คือขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลายภูตผีปิศาจให้ออกไปจากอาคารบ้านเรือน

หยก” คนจีนเชื่อว่า เป็นหินพิเศษที่สามารถปกป้องขจัดสิ่งอัปมงคล และยังเชื่อด้วยว่าเมื่อมีหยกอยู่ในบ้าน หรือสวมใส่หยกติดตัว หยกจะช่วยรับเคราะห์ร้ายต่างๆ แทน และยังทำให้เกิดมงคลขึ้นอีกด้วย วันตรุษจีน เป็นวันที่ทุกคนขอให้ได้เงินเยอะๆ ร่ำรวย เฮงๆ บางครั้งในสิ่งของเหล่านี้จะมีลวดลายหรือรูปของเงินตราจีนโบราณเรียกว่า “หยวนเป่า” หน้าตาคล้ายกับเรือลำเล็ก ๆ หมายถึง โชคกำลังมาถึงท่านแล้ว มีแต่ความร่ำรวยมาถึงท่านในเร็ววัน

ส่วน “พัด” ภาษาจีนเรียกว่า “ซ่าน” พ้องกับคำที่มีความหมายว่าเมตตากรุณาของจีน นอกจากนี้บางครั้งเราจะเห็น “ถั่งลิสง” ติดมาด้วย หมายถึง ความมีลูกหลานมากมาย มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง มีเงินทองมากมายไม่รู้จักหมดสิ้น “น้ำเต้า” มีความเป็นสิริมงคลอย่างหนึ่งของศาสนาเก่า แปลว่ามีอายุยืนยาว มีลูก เต็มบ้านหลานเต็มเมือง และ ยังเชื่อว่าจะช่วยขจัดภูตผีปิศาจออกไปด้วย “รูปพระยิ้ม” เรียกว่า “เจ้าโขง ถัง ขว่าย” สิ่งสิริมงคลของศาสนาเก่า เชื่อว่า ยิ้มเมื่อไหร่โชคเข้ามา “ดอกบัว” สิ่งมงคลในทางพุทธศาสนา พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ประทับอยู่ในดอกบัว อย่างเช่นเจ้าแม่ กวนอิมเป็นต้น


ขณะที่ “โคมไฟ” เป็นสิ่งสิริมงคลอีกอย่างหนึ่ง โคมไฟแดง เมื่อเทศกาลจีนผ่านไป 15 วัน จะมีเทศกาล “เหยือน เซียว” เทศกาลประกวดโคมไฟ ในวัน 15 ค่ำ เดือน 1 ถือเป็นวันสุดท้ายของปีที่ฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ในขณะที่ชาวจีนแต้จิ๋ว เรียกเทศกาลนี้ว่า “เหยือน เซียว เจอะ” จะประกวดกันว่าบ้านไหนมีลูกชาย จะนำผ้าสีแดงติดที่ประตูบ้าน จะมีคนมาแสดงความยินดีด้วย ในวันนี้จะนำลูกชายไปไหว้เจ้าด้วย จะต้องเอาตะเกียงสีแดงไปแขวนไว้ที่ศาลเจ้า บอกกล่าวกับเทพเจ้าว่า บ้านนี้มีลูกชายไว้สืบสกุลแล้ว ขณะที่บ้านไหนมีลูกผู้หญิงจะปิดประตูเงียบเชียบ

บรรดาของมงคลหรือเครื่องรางเหล่านี้บางทีมีตัวหนังสือภาษาจีนเขียนติดไว้ เล็ก ๆ เช่น
“ชู หิ้ว ผิง อาน” หมายถึง อยู่เป็นสุขทุกที
“ว่าน ซื่อ หยูว อี้” หมายถึงให้ สมปรารถนาในทุกประการ

ย่านเยาวราช บริเวณริมทางเท้าตรงข้ามตลาดใหม่ มีร้านจำหน่ายสิ่งของมงคลอยู่ หลายร้านไม่ว่าจะเป็นเชือกถัก น้ำเต้า โคมไฟ เหล่านี้เป็นสินค้าขายดิบขายดีอีกอย่างนอกจากอาหารไหว้เจ้า สถาพร แซ่ลี่ พ่อค้าขายสินค้ามงคล บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ไชน่าทาวน์มานาน 5 ปี บอกเล่าว่าราคาของที่เริ่มต้นตั้งแต่ 35 บาท จนถึงพันบาทแล้วแต่ขนาดเล็กใหญ่ แต่ที่ขายดีคือถุงใส่ส้ม เพราะเป็นสินค้าราคาถูกราคา 20 บาท ในเทศกาลตรุษจีนทุกคนต้องซื้อ

นอกจากนี้ยังนิยมซื้อตุ้ยเลี้ยงสำเร็จ ต่างจากตุ้ยเลี้ยงแบบเก่าที่นิยมเขียนสดๆ เพราะมีสีสันสวยงาม มีสีทองคนซื้อจะเป็นคนรุ่นใหม่เสียมากกว่า ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป และยังมีจำพวก ถังเงิน ถังทอง ถุงเงินถุงทอง นำไปแขวนที่บ้านแล้วเชื่อว่า เงินทองไหลมาเทมา “เมื่อเทียบกับปีที่แล้วปีนี้ขายไม่ค่อยดีเท่าไร ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเน้นซื้อของที่ราคาไม่สูงนัก” พ่อค้าสินค้ามงคลบอกเล่า

ตรุษจีนปีนี้หลายสำนักฟันธง ข้าวของแพงขึ้นปริมาณการจับจ่ายซื้อขายลดลงไปตามกัน แต่สินค้าที่สื่อความหมายให้ชีวิตรุ่งเรืองร่ำรวยยังเป็นสินค้าจำเป็น ด้วยความหวังให้ปีนี้ทั้งปีร่ำรวยๆ โชคดีตลอดปีตลอดไป

แก้เคล็ดฮวงจุ้ยด้วยสี

การพูกพันธ์กันระหว่างสี กับฮวงจุ้ย

1.สีแดง
เสริมดวงการเงิน เกียรติยศชื่อเสียง พลังชีวิต แก้ไขความอ่อนแอของจิตวิญญาณ

2.สีชมพู
เสริมความนุ่มนวล ความห่วงใยอาทร แก้ไขความเย็นชา ปราศจากความรัก และความอ่อนโยน

3.สีม่วง
เสริมความมั่งมีศรีสุข และชื่อเสียงลาภยศ แก้ไขความหยุดนิ่งของดวงชะตา

4.สีเขียว
เสริมความสงบ ความหวัง และความมั่นคงปลอดภัย แก้ไขความติดขัด อุปสรรคต่าง ๆ และความวุ่นวาย

5.สีเหลือง
เสริมอำนาจบารมีและโชคทรัพย์ แก้ไขความตกต่ำ ความอ่อนแอ และความแห้งแล้งของจิตใจ

6.สีส้ม
เสริมความคิดริเริ่ม และความสุข แก้ไขความทึบ ความหม่นหมอง และความถดถอยทางจิตวิญญาณ

7.สีฟ้า
เสริมความอบอุ่น การเจริญเติบโต การพัฒนาต่างๆ แก้ไขความเศร้า ความแตกแยก และการหยุดนิ่งเฉื่อยชาของอารมณ์จิตใจ

8.สีเทา
เสริมความสมดุล ความเรียบง่าย แก้ไขความวุ่นวายไร้ระเบียบ

9.สีดำ
เสริมความเคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง แก้ไขความเลื่อนลอย ขาดเอกภาพ

10.สีน้ำตาล
เสริมความมั่นคง บารมี ความสง่างาม แก้ไขความผันแปรต่าง ๆ


อันนี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ใครอยากแก้ฮวงจุ้ยแบบไหน ลองเลือกสีได้ตามต้องการ.

สีรถที่ถูกโฉลกตามวันเกิด


วิธีแก้เคล็ด สี กับ รถ ให้ถูกโฉลกตามหลัก ฮวงจุ้ย


วิธีแก้เคล็ดสำหรับผู้ที่ใช้สีรถที่เป็นกาลกิณีวันเกิด เช่น คนเกิดวันอาทิตย์ ใช้รถสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน เป็นต้น ให้หาสติกเกอร์ "สีที่เป็นศรี" ของวันเกิดของเจ้าของรถ เช่น คนเกิดวันอาทิตย์ มีสีเขียว เป็นศรี เป็นต้น เมื่อได้สีนั้นมาแล้ว ให้ตัดสติกเกอร์ให้ได้ขนาด 2x2 นิ้ว จำนวน 4 แผ่น แล้วเอาไปติดตำแหน่งของรถต่อไปนี้ แผ่นที่ 1. กระโปรงหน้ารถ (ตรงกลาง) 1 แผ่น แผ่นที่ 2. ติดที่กระโปรงหลัง (หรือฝาท้าย) แผ่นที่ 3. ติดที่ประตูหน้าซ้าย แผ่นที่ 4. ติดที่ประตูหน้าขวา


สีที่เป็นศรีสำหรับคนเกิดวันต่างๆ
1. เกิดวันอาทิตย์ สีเขียว เป็น ศรี
2. เกิดวันจันทร์ สีดำ เป็น ศรี
3. เกิดวันอังคาร สีเหลือง เป็น ศรี
4. เกิดวันพุธ กลางวัน สีเขียวอ่อน เป็น ศรี
5. เกิดวันพุธ กลางคืน สีขาว เป็น ศรี
6. เกิดวันพฤหัสบดี สีส้ม เป็น ศรี
7. เกิดวันศุกร์ สีชมพู เป็น ศรี
8. เกิดวันเสาร์ สีน้ำเงิน เป็น ศรี
9. เกิดวันพุธ กลางคืน สีขาว เป็น ศรี


วันอาทิตย์

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันอาทิตย์ ห้ามใช้ ศ ษ ส ห ฬ ฮ เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 6 และเลข 3
- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันศุกร์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันอังคาร เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันอาทิตย์

รถสีแดงก่ำ หรือ สีแดงเลือดหมู
เสริมสง่าราศี มากด้วยบุญญาบารมี มีอำนาจวาสนา คนนบนอบยำเกรง

รถสีดำ
เสริมความน่าเคารพนับถือ เสริมดวงเรื่องทรัพย์สินเงินทอง การเงิน

รถสีขาว สีครีม
เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

รถสีม่วงเปลือกมังคุด
เสริมดวงด้านศรัทธา ความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ และดวงเรื่องการเงิน

รถสีเขียว
เสริมดวงให้คนรักเมตตา อุปถัมภ์ค้ำชู ช่วยเหลือทำให้สะดวกราบรื่นในเรื่องต่างๆ

รถสีบรอนซ์ สีเทา สีทอง
เสริมดวงเรื่องเมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ การสนับสนุนเกื้อกูล

รถสีฟ้า สีน้ำเงิน ไม่ควรออกรถสีนี้ เพราะเป็นกาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต


วันจันทร์

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันจันทร์ ห้ามใช้ สระทั้งหมด (เว้นไม้หันอากาศและตัวการันต์) เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 1 และเลข 5
- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันอาทิตย์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันจันทร์

รถสีส้ม สีเหลืองแก่
เสริมดวงเรื่องการเงิน ความมั่นคง ทุนทรัพย์ ราคาและคุณค่าที่จะเพิ่มพูนให้แก่ตนเองในปัจจุบันและภายภาคหน้า

รถสีดำ
เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

รถสีน้ำเงิน สีทอง
เสริมเสน่ห์ ผู้ใหญ่รักเมตตาและเอ็นดู มีแต่สิ่งที่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรัก เมตตา และศรัทธาในตัวเรา

รถสีม่วงเปลือกมังคุด
เสริมดวงด้านความสะดวกราบรื่นทุกอย่าง

รถสีชมพู เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริมในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

รถสีฟ้า
เสริมดวงให้ประสพความสำเร็จในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

รถสีเขียว
อำนาจวาสนา บารมี เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับบัญชาคน

รถสีแดง สีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต


วันอังคาร

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันอังคาร ห้ามใช้ ก ข ค ฆ ง เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 2 และเลข 1 และห้ามเลข เพราะทะเบียนที่มีเลข จะมีเรื่องและเกิดอุบัติบ่อยๆ
ทำให้เสียเงินทองหรือทำให้เจ้าของได้รับบาดเจ็บ
- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันจันทร์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันอาทิตย์ เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันอังคาร

รถสีม่วงแก่
เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

รถสีดำ เสริมดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับ

รถสีบรอนซ์ สีเทา
เสริมความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ

รถสีทอง สีแสด
เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

รถสีน้ำตาล
เสริมดวงด้านความมั่นคงในชีวิต เช่นมั่นคงเรื่อง หลักทรัพย์ ทรัพย์สิน หน้าที่การงาน

รถสีเขียว
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง

รถสีแดง สีชมพู
เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

รถสีขาว สีเหลืองนวล เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต


วันพุธ(กลางวัน)

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) ห้ามใช้ จ ฉ ช ซ ฌ ญ เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 3 และเลข 8
- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันอังคาร เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางคืน) เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันพุธ (กลางวัน)

รถสีน้ำเงิน สีฟ้า
เสริมดวงด้านความเคารพนับถือ ยกย่องยอมรับ

รถสีน้ำตาล สีทอง
เสริมดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับ

รถสีขาว สีเหลืองอ่อน
เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
รถสีเทา สีบรอนซ์ เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

รถสีดำ
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

รถสีม่วงแก่
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

รถสีเขียว
เสริมดวงด้านเสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา

รถสีชมพู สีแสด เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต


วันพุธ(กลางคืน)

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) ห้ามใช้ บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 5 และเลข 4
- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพฤหัสบดี เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางวัน) เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันพุธ (กลางคืน)

รถสีชมพู
เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ

รถสีดำ
เสริมดวงด้านความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน

รถสีเทา สีบรอนซ์
เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

รถสีม่วงแก่
เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

รถสีน้ำเงิน สีฟ้า
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

รถสีแดง สีน้ำตาล
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

รถสีส้ม สีทอง เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต


วันพฤหัสบดี

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันพฤหัสบดี ห้ามใช้ ด ต ถ ท ธ น เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 7
- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันเสาร์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิด
- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันพฤหัสบดี

รถสีขาว
เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ

รถสีแดง
เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

รถสีเทา สีบรอนซ์
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

รถสีฟ้า
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

รถสีเขียว
เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

รถสีส้ม สีทอง
เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
รถสีดำ สีม่วง สีน้ำเงิน เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต


วันศุกร์

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันศุกร์ ห้ามใช้ ย ร ล ว เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 8 และเลข 7
- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางคืน) เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันเสาร์ เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันศุกร์

รถสีเขียว
เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วาง

รถสีสีแดง สีทอง
เสริมดวงด้านความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน

รถสีแดง สีชมพู
เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

รถสีเหลือง
เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริมในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

รถสีดำ
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

รถสีน้ำตาล
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

รถสีฟ้า สีน้ำเงิน
เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา

รถสีเทา สีบรอนซ์ สีม่วง เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต


วันเสาร์

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันเสาร์ ห้ามใช้ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 4 และเลข 6
- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางวัน) เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันศุกร์ เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันเสาร์

รถสีแดง
เสริมดวงให้คนยอมรับเชื่อถือและไว้วางใจ

รถสีชมพู
เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริมในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน

รถสีน้ำเงิน สีฟ้า
เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

รถสีทา สีบรอนซ์
เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี

รถสีทอง สีเหลือง
เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น

รถสีดำ สีม่วงแก่
เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา

รถสีเขียว สีแสด เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

ข้อมูล : Forward Mail
ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต

8 ฮวงจุ้ย แฟชั่นที่ขาดไม่ได้ในปีนี้

สีสัน กระเป๋า อัญมณี แหวน และของอื่นๆ ที่ช่วยให้คุณขับเคลื่อนผ่านปีนี้ไปได้อย่างเป็นมงคล ของทั้ง 8 อย่างนั้นก็คือ...


1.หากระเป๋าถือประดับอัญมณีมาใช้

ของชิ้นนี้เป็นของที่กำลังมาแรงชิ้นล่าสุด และคาดว่าน่าจะกลายเป็นของที่ฮิตสุดๆ ในปีนี้ กระเป๋าถือนั้นถือว่ายอดเยี่ยมในทางฮวงจุ้ยสำหรับปี 2552 เพราะรูปร่างที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งจะนำโชคด้านการเจริญเติบโตอันยอดเยี่ยมมาให้ อัญมณีเทียม (หรือคริสตัล) เพิ่มพลังธาตุดิน โดยจะนำความมั่นคงและสมดุลที่ดีมาให้


2.สวมใส่สีเขียว

อะไรก็ตามที่เป็นสีเขียวสว่างๆ จะนำความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรือง และกระแสรายได้ที่ดีกว่ามาให้คุณ ลองนึกถึงหยก มรกต ผ้าไหมไทยสีเขียว หรือแม้แต่ชุดออกกำลังกายสีเขียวก็จะช่วยให้กระแสความมั่งคั่งไหลเข้ามา ขณะที่คุณออกกำลังกายในโรงยิม แถมยังทำให้สุขภาพดีอีกด้วย



3.ประดับผ้าพันคอรอบคอของคุณ

ผ้าพันคอผืนเล็กๆ นี่ล่ะคือของประดับเพื่อการคุ้มครองที่ดีที่สุดสำหรับปี 2552 หาผ้าพันคอพระหทัยสูตรสำหรับการคุ้มครองจากสวรรค์ หรือผ้าพันคอ SAY YES เพื่อสร้างพลังด้านดีรอบๆ ตัวคุณตลอดปีนี้ ไม่มีอะไรจะมาเทียบได้กับการมีลวดลายสีแดง (และเขียว) อยู่รอบคอของคุณเพื่อโชคลาภที่ยอดเยี่ยมอีกแล้ว!


4.แหวนวงใหญ่นั้นดูสวยงามและน่าดึงดูด

ผู้ออกแบบแหวนต่างก็ทำแหวนค็อกเทลวงใหญ่ออกมารับปีใหม่นี้ และเมื่อทำออกมาเป็นอัญมณีสีสันสดใสเช่นนี้ ขนาดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ! คำแนะนำก็คือ ให้เลือกแหวนแฟนซีที่ประดับด้วยอะเมทิสต์ ออนิกซ์ เทอร์คอยส์ และหินปะการังเพื่อความสวยงามที่ดูไม่เรียบจนเกินไป แหวนเหล่านี้ดีเยี่ยมสำหรับการสร้างและรักษาความมั่นคงตลอดปี 2552 จนถึงปี 2553 เลยทีเดียว!


5.กระตุ้นโชคด้านความมั่งคั่งด้วยหยกคู่ใจสักชิ้น

อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า ธาตุแห่งความมั่งคั่งประจำปีนี้คือธาตุไม้ ดังนั้นเครื่องประดับ หรือเครื่องแต่งกายสีเขียว จึงเป็นเทรนด์ที่มาแรง หยกมีความหมายที่ดีเสมอ และสวมใส่ได้ตลอดกาลไม่มีตกยุค หาหยกชิ้นงามๆ เป็นของขวัญให้ตัวเองสักชิ้น จะเป็นจี้ เข็มกลัด ต่างหู หรือแหวนก็ได้ และพยายามเลือกหยกที่มีสีเขียวเสมอกันทั้งชิ้น เพื่อสื่อถึงธาตุไม้ และหยกยังช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรงอีกด้วย

6.แจ็กเกตสีทอง

เป็นวิธีใหม่ที่จะห้อมล้อมตัวคุณด้วยพลังแห่งทองคำ มองหาแจ็กเกตเท่ๆ สักตัวที่เป็นหนังสีทอง ยิ่งดูเป็นมันเงามากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี สิ่งนี้จะนำความสำเร็จพร้อมกับอำนาจและพลังชีวิตมาให้ นอกจากนี้ยังเป็นตัวกระตุ้นด้านหน้าที่การงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกด้วย!

7.ตัดผมสั้น

การตัดผมซอยสั้นประมาณระดับคางจะช่วยเพิ่มความสดใสให้กับภาพลักษณ์ของคุณ และเมื่อคุณตัดผมสั้นแล้ว ก็ให้ทำสีซะหน่อย สีที่ควรทำในปี 2552 นี้คือสีบลอนด์น้ำผึ้ง อย่าทำผมสีแดงแจ๋หรือสีดำเข้ม เฉดสีที่ดีที่สุดคือสีทองและให้ผมสั้นปานกลาง...


8.ทำเล็บ

ทำเล็บสไตล์ฝรั่งเศสด้วยสีขาวหรือสีชมพูที่ดูเป็นธรรมชาติ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเสริมพลังให้กับมือของคุณ ทาเล็บให้ทั่วและพยายามอย่าใช้กากเพชรหรือลวดลายบนเล็บของคุณ... ของพวกนี้จะขัดขวางโชคลาภที่หลั่งไหลเข้ามาหาคุณ

ขอบคุณข้อมูล จาก http://www.posttoday.com

เนื้อคู่กับตัวเลข



จากการสำรวจความนิยมของผู้หญิงโสดที่ชอบไปดูหมอ ไม่ว่าจะเป็นลายมือ วันเดือนปีเกิด ไพ่ทาโร่ต์ ฯลฯ

1 ใน 3 อันดับที่ผู้หญิงอยากรู้ หนีไม่พ้นเรื่อง เนื้อคู่ วิวาห์หวานฉบับนี้ ทาโรต์เลยอาสาเป็นหมอดูกับเขาบ้าง ทำนายง่ายๆ ไม่เสียสตางค์ เพียงคุณนำส่วนสูงและน้ำหนักของคุณมาบวกกัน เหลือเศษเท่าไรก็ไปดูคำทำนายกันค่ะ

เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจึงไม่สมควรเล่นอย่างยิ่ง เพราะน้ำหนักและส่วนสูงของหนูๆ ยังเปลี่ยนแปลงอยู่ ส่วนใหญ่ที่อยากรู้จักเนื้อคู่ของตัวเอง ก็ต้องวัดส่วนสูง และน้ำหนักให้แน่นอน กรณีที่น้ำหนักขึ้นลงบ่อย ให้เอาน้ำหนักค่าเฉลี่ยกลางเป็นเกณฑ์

ตัวอย่างเช่น คุณสูง 160 เซนติเมตร หนัก 45 กิโลกรัม

วิธีคำนวณคือ 160+45 = 205 เสร็จแล้วให้นำเศษหลักหน่วยที่ได้ไปดูคำทำนาย

จากตัวอย่างก็คือ เศษ 5


ผลการทำนาย

เหลือ เศษ 0 เนื้อคู่ของคุณเป็นคนผิวสองสี มีฐานะดี เป็นคนจริงจัง ค่อนข้างถือตัว นิสัยแข็งกระด้าง แต่เป็นคนที่มีความมานะอดทน เป็นคนที่ต้องการให้คนอื่นมาเอาใจ และต้องการให้มีคนมารายล้อมมากๆ


เหลือ เศษ 1 เนื้อคู่ของคุณเป็นคนผิวขาว น่ารัก ใจเย็น เจ้าระเบียบ ชอบให้คนอื่นมาเอาใจ ฐานะมั่นคง เป็นคนชอบให้คุณอยู่ในคำสั่งของเขา ถ้าขัดใจเมื่อไหร่จะไม่พอใจทันที แต่โกรธง่ายหายเร็ว ถ้ารักใครแล้วก็รักจริง พร้อมจะแต่งงานกับคนที่เขารักได้ทันที


เหลือ เศษ 2 เนื้อของคุณเป็นคนรูปร่างสันทัด ผิวสองสี ร่าเริง ไม่ถือตัว เป็นคนง่ายๆ ชอบตามใจคนอื่น ไม่ค่อยพิธีรีตองมากนัก มารยาทเรียบร้อย เสมอต้นเสมอปลาย รักเดียวใจเดียว


เหลือ เศษ 3 เนื้อคู่ของคุณเป็นคนผิวขาวเหลือง ฐานะมั่นคง มีเสน่ห์ พูดจาอ่อนหวาน ช่างพูดช่างคุย มีเพื่อนเยอะ เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง จัดการทุกอย่างเองหมด มีลักษณะของผู้นำ บางครั้งโรแมนติก ชอบทำให้คนอื่นหลงกล


เหลือ เศษ 4 เนื้อคู่ของคุณเป็นคนผิวคล้ำ มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ถือตัว ฐานะดี ช่างพูด รักอิสระ เชื่อมั่นในตัวเองมาก ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เป็นคนตั้งใจ ทำอะไรแล้วต้องทำให้ดีที่สุด มีเหตุผลหนักแน่น ชอบคิดหาเหตุผลในทุกเรื่อง


เหลือ เศษ 5 เนื้อคู่ของคุณรูปร่างสันทัด ผิวขาว ร่าเริง สนุกสนาน เป็นคนอ่อนไหวพอสมควร ขี้งอนและขี้หึงมาก แต่บางครั้งก็สุขุมเยือกเย็น และอ่อนน้อม ยากจะคาดเดาได้ พูดจาตรงไปตรงมา เห็นความรักเป็นสิ่งวิเศษ


เหลือ เศษ 6 เนื้อคู่ของคุณเป็นคนผิวขาว นิสันอ่อนโยน ตามใจคุณทุกอย่าง ไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบที่จะสนุกสนานไปเรื่อยๆ เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ต้องการให้คนที่อยู่ใกล้มีความสุข จึงเป็นที่รักของคนมากมาย


เหลือ เศษ 7 เนื้อคู่ของคุณเป็นคนผิวขาวเหลือง นิสัยอ่อนโยน พูดจาดีมีเหตุผล ให้ความจริงใจกับความรัก ไม่ชอบให้ใครมาบังคับให้ทำอะไร เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ช่างประดิษฐ์คิดค้น ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่ชอบพึ่งคนอื่น แต่งตัวเนี้ยบมาก รักความเป็นระเบียบเรียบร้อย


เหลือ เศษ 8 เนื้อคู่ของคุณเป็นคนสันทัด ผิวสองสี ชอบเอาใจคนอื่น ชอบอยู่กับคนเยอะๆ มีความสุขที่ได้พบปะกับคนอื่น ชอบอะไรง่ายๆ แต่งตัวสบายๆ เป็นคนเปิดเผยจริงจังกับความรักมาก และค่อนข้างขี้หึง


เหลือ เศษ 9 เนื้อคู่ของคุณเป็นคนผิวขาว คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น เป็นตัวของตัวเอง ชอบทำอะไรที่แสดงถึงความเป็นผู้นำ ช่างฝันมาก มีอารมณ์โรแมนติกสูง ชอบหาวิธีเซอร์ไพรส์คนรักเสมอ


โอมเพี้ยง!! ขอให้สาวโสดทั้งหลายพบคู่โดยไว จะคู่แท้คู่เทียมก็ช่าง ขอเพียงเป็นคนดีและรักคุณสำคัญที่สุด

ทายความรักตามเดือนเกิด


ทายความรักตามเดือนเกิด ม.ค.- ธ.ค.

มกราคม
ทะเยอทะยาน จริงจัง ชอบสั่งสอน รักการเรียนรู้ ขยันทำงานตัวเป็นเกลียว มีความคิดสร้างสรรค์ฉลาด เจ้าระเบียบ ทำอะไรเป็นแบบแผนขั้นตอน ไม่มีนอกลู่นอกทางแม้แต่น้อย อ่อนไหว ช่างคิดรู้วิธีทำให้คนอื่นมีความสุข ปกติจะเงียบขรึมถ้าไม่ได้กำลังตื่นเต้น หรือเข้าสู่ภาวะคับขัน สงบเสงี่ยม กระตือรือร้น โรแมนติกแต่ไม่ค่อยยอมแสดงออกเท่าไร รักเด็กติดบ้าน ซื่อสัตย์ ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม แถมขี้หึงอีกต่างหาก

กุมภาพันธ์
ช่างฝัน รักทั้งโลกแห่งความเป็นจริงและโรคแห่งความฝัน ไหวพริบปฏิภาณดี ฉลาดหากแต่บุคลิกภาพแปรปรวนไปนิด เจ้าอารมณ์ เงียบ ขี้อาย สุภาพ ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง ซื่อสัตย์ ชอบตั้งเป้าหมายในชีวิต รักอิสระเหนือสิ่งอื่นใด ขบถได้ง่ายถ้าถูกบีบคั้น แอบก้าวร้าวบ้างบางครั้ง แต่ที่จริงอ่อนไหวมาก เสียใจง่าย โกรธก็ง่ายไม่ชอบเรื่องไร้สาระ ชอบคบเพื่อนฝูงใหม่ๆ น่ารัก รักกิจการงานบันเทิงทุกชนิด โรแมนติกลึกๆ ไม่แสดงออก เชื่อถือโชคลาง ใช้จ่ายเงินเก่ง

มีนาคม
มีเสน่ห์ เป็นที่รักของผู้อื่น ขี้อาย สงบเสงี่ยม ลึกลับ ซื่อตรง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นอกเห็นใจ รักสันติและความสงบ อ่อนโยน ชอบเอาอกเอาใจคนอื่น ใจเย็น ไว้ใจได้ เห็นค่าคนอื่น ใจดี เคร่งศีลธรรม แต่ติดนิสัยชอบประเมินคนอื่น เจ้าคิดเจ้าแค้น แถมยังเพ้อฝัน ชอบสร้างจินตนาการ รักการเดินทาง รักการเป็นจุดสนใจ ใจเร็วไปนิดถ้าคิดจะลงหลักปักฐานกับใคร ชอบตกแต่งบ้านเอง มีพรสวรรค์เรื่องดนตรี รักข้าวของแปลก ข้อควรระวังคืออารมณ์หงุดหงิดง่าย

เมษายน
กระตือรือร้น ไม่ชอบหยุดนิ่งอยู่กับที่ เข้มแข็งเด็ดขาด แต่กลับใจอ่อนอย่างไม่น่าเชื่อกับคำขอโทษ ดึงดูดใจและเป็นที่รักของผู้คน ใจแข็ง รักการเป็นจุดสนใจ พูดจาฉลาดถนอมน้ำใจทุกฝ่าย ชอบปลอบโยน มนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบเสนอแนะแก้ปัญหาให้คนอื่น กล้าหาญ ชอบผจญภัย สุภาพเอื้อเฟื้อ แต่เจ้าอารมณ์ ชอบกระตุ้นทั้งตัวเองและคนรอบข้าง และขี้หึงมากเช่นกัน

พฤษภาคม
ดื้อดึง ใจแข็ง กล้าแกร่ง ตั้งใจมั่น แรงจูงใจสูง หลักแหลม โกรธง่าย แต่ก็มีเสน่ห์ ชอบการเป็นจุดสนใจ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์มากนัก มีจุดยืนของตัวเอง มีอิทธิพล ชอบปลอบโยนผู้อื่น มีระบบระเบียบ เพ้อฝัน มีสัมผัสพิเศษ เข้าอกเข้าใจ จินตนาการกว้างไกล รักการเดินทาง ไม่ชอบอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ไม่ชอบหยุดนิ่ง ทำงานหนัก ความรับผิดชอบสูง แต่สุรุ่ยสุร่ายไปหน่อย

มิถุนายน
คิดการณ์ไกล หัวก้าวหน้า ใจอ่อนกับคนใจดี สุภาพ พูดจาเบา มีความคิดสร้างสรรค์มากมาย อ่อนไหว ชอบคิดค้น เสียตรงที่ขี้ลังเล ไม่รักษาเวลา สนุกสนาน มีอารมณ์ขัน ชอบเรื่องตลก มีทักษะดีในการโต้แย้ง ช่างพูดช่างคุย ชอบฝันกลางวันเป็นมิตร รู้ว่าจะหาเพื่อนได้อย่างไร อดทน ชอบแสดงออก เสียใจง่าย ชอบแต่งตัว ขี้เบื่อ นานๆ จะแสดงอารมณ์ออกมาซักที ถ้าเสียใจต้องใช้เวลานานในการเยียวยา ชอบการบริหาร หัวรั้น ถือคติแปลกๆ ว่าใครประจบประแจงคือศัตรู ส่วนเพื่อนแท้ต้องไม่กลัวที่จะขัดใจ

กรกฎาคม
อยู่ด้วยแล้วสนุก เก็บความลับได้ แต่ยากที่จะเข้าถึงตัวตนที่แท้จริง เงียบถ้าไม่มีอะไรตื่นเต้น หยิ่งทะนงในตัวเอง มีความรับผิดชอบ ชอบปลอบโยนคนอื่น ซื่อตรง สนใจความรู้สึกคนรอบข้าง มีไหวพริบ ไม่ผูกใจเจ็บใคร ไม่ชอบเรื่องไร้สาระทั้งหลาย มีอิทธิพลต่อคนอื่นทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ อ่อนไหว ไม่ไว้วางใจใครง่าย ห่วงใยใส่ใจคนอื่น ปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเท่าเทียม เห็นอกเห็นใจ แย่ตรงที่ชอบตัดสินคนอื่นเพียงเพราะสิ่งที่สังเกตเอาเอง ทำงานหนัก เรียนดี ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ เสียใจง่ายแถมต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย ทุ่มเททุกอย่างให้งาน

สิงหาคม
ชอบเรื่องตลก มีเสน่ห์ สุภาพอ่อนโยน ใส่ใจคนอื่น กล้าหาญไม่เคยกลัวอะไรทั้งสิ้น มั่นคงเด็ดเดี่ยว เป็นผู้นำเต็มตัว รู้ว่าต้องดูแลปลอบโยนคนอื่นอย่างไร แต่เสียตรงที่เอื้อเฟื้อเกินไป มั่นใจตัวเองเกินไป เรียกร้องต้องการการยกย่องนับถือ มุ่งมั่นแรงกล้าสุดๆ แถมโกรธง่ายเกินเหตุ โดยเฉพาะเมื่อถูกแหย่หรือกระตุ้น ขี้หึง เคร่งศีลธรรม หุนหันพลันแล่น ความคิดอิสระไม่ค่อยเหมือนใคร รักทั้งการเป็นผู้นำและถูกนำ ช่างฝัน มีพรสวรรค์เรื่องศิลปะดนตรี และกลไกการป้องกันตัว อ่อนไหวเหมือนกันแต่ไม่ค่อยจะอยากยอมรับ ยุ่งเหยิงวุ่นวายตลอดเวลา โรแมนติค รักใคร่และห่วงใยคนอื่น ชอบคบหาเพื่อนฝูงใหม่ๆ

กันยายน
สุภาพอ่อนโยน ประนีประนอม ระวังตัวแจวางขั้นตอนชีวิตอย่างเป็นแบบแผน ชอบตอกย้ำจุดอ่อนคนอื่น ชอบการวิพากษ์วิจารณ์ เยือกเย็นและสงบ ใจดี เห็นอกเห็นใจคนอื่น รอบรู้เรื่องต่างๆ ซื่อตรง ทำงานเก่ง อ่อนไหว ช่างคิด ความจำดี สนใจใฝ่รู้ ชอบการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ มีแรงจูงใจ เข้าอกเข้าใจ เก็บความลับอยู่ รักกีฬากิจกรรมยามว่าง และการเดินทาง ไม่แสดงอารมณ์เสียจนเกือบจะเป็นคนเก็บกด ช่างเลือกโดยเฉพาะเรื่องแฟน

ตุลาคม
รักการพูดคุยเป็นชีวิตจิตใจ รักทุกคนที่รักตัวเอง รักการเจาะเข้าสู่จุดศูนย์กลางของเรื่องต่างๆ มีเสน่ห์ สุภาพนุ่มนวล จิตใจและรูปร่างสวยงาม ไม่โกหกเสแสร้ง เห็นอกเห็นใจคนอื่น ให้ความสำคัญกับเพื่อน ชอบคบหาเพื่อนใหม่อยู่เรื่อย เสียใจง่ายก็จริงแต่ไม่ต้องห่วงแป๊บเดียวก็หายเศร้า ชอบช่วยเหลือคนอื่น ชอบฝันกลางวัน ความคิดบรรเจิด มีสัมผัสพิเศษ รักการเดินทาง ศิลปะ และวรรณกรรมพูดจานุ่มนวล รักและใส่ใจคนอื่น โรแมนติก ขี้หึง เป็นห่วงเป็นใยรักความยุติธรรม เชื่อคนง่าย เพราะมองโลกสวยงาม สูญเสียความเชื่อมั่นง่ายมาก

พฤศจิกายน
ความคิดล้านแปดเต็มหัว ยากที่จะเข้าถึง โดดเด่นหัวไว ใส่ใจและชอบให้คำแนะนำ อยากรู้อยากเห็น รู้จักวิธีตะล่อมคุ้ยความลับ ชอบคิดอยู่ตลอดเวลา พูดน้อยแต่อัธยาศัยดี กล้าหาญและเอื้อเฟื้อ อดทน หัวรั้น ใจแข็ง ถือคติตราบใดที่ยังมีความหวัง ตราบนั้นก็ยังมีหนทางเสมอ มีเป้าหมายในชีวิต ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ โกรธยากมากถ้าไม่ถูกยั่วจนถึงขั้นจริงๆ ชอบอยู่คนเดียว มีแรงจูงใจในตัวเอง โดยไม่สนใจการยอมรับนับถือจากคนอื่น มั่นคง เด็ดเดี่ยว รักใครรักจริง เจ้าอารมณ์ โรแมนติก แต่ไม่ค่อยสนใจสัมพันธ์จริงจังนัก รักบ้าน ทำงานหนัก มีความสามารถสูง ไว้ใจได้

ธันวาคม
ซื่อสัตย์ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กระตือรือร้นในการแข่งขันและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่ไม่ค่อยมีความอดทน ทะเยอทะยาน มีอิทธิพลในสังคม รักการเข้าสังคมมาก รักการได้รับการยอมรับ การเป็นจุดสนใจ รักการที่มีคนอื่นมารักตัวเอง ซื่อตรงและไว้ใจได้ ไม่เสแสร้ง แต่อารมณ์สียง่าย เกลียดการถูกบีบบังคับ รักเรื่องตลก และมีเหตุผล


ขอขอบคุณเรื่องจากทางบ้านจาก คุณพวงพร ลิ่มศิลา http://horoscope.sanook.com/inlove/inlove_01539.php

เครื่องประดับนำโชคเรื่องความรัก


เครื่องประดับก็มีส่วนสำคัญ ในการพบปะผู้คน ดังนั้นเราควรเลือกเครื่องประดับให้เหมาะกับวันของเรา

วันอาทิตย์ - ทับทิม


วันจันทร์ - เพชร, ไข่มุก


วันอังคาร - โกเมน, เพทาย


วันพุธ (กลางวัน) - มรกต, หยก


วันพุธ (กลางคืน) - พลอยสีขุ่น, มุกดาหาร


วันพฤหัสบดี - บุษราคัม


วันศุกร์ - ไพลิน

ทำนายรักจากคัมภีร์โรมัน


อยากรู้ว่าความรักของคุณจะเป็นแบบไหน ง่ายๆ แค่เลือกว่าภายใน 12 เดือน คุณอยากแต่งงานในเดือนไหนมากที่สุด ขอบอกว่า ตำราทำนายความรักฉบับนี้แม่นมาก เป็นตำราเก่าแก่จากคัมภีร์โรมัน



> เลือกเดือนมกราคม
ดวงรักของคุณมีความเข้มข้นมาก เพราะคุณมีทั้งความโรแมนติกมาก และความซีเรียสสูง แบบว่ามีสองอารมณ์ที่แตกต่าง บางช่วงจึงมีความเจ็บปวดลึกๆ เหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่มีรักก็จะรักกันได้นานและจริงจังพอควรเชียวล่ะ

> เลือกเดือนกุมภาพันธ์
ดวงความรักของคุณไม่ค่อยแน่นอน เพราะตัวคุณเองเป็นคนรักอิสระมาก อยากทำอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ คุณมักจะมีคนรักที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน หรือมีการคบหากันแบบเพื่อนด้วยเพราะคุณไม่ใช่คนที่ชอบทำหวานทำสวีทกับคนที่คุณรักนักหรอก

> เลือกเดือนมีนาคม
ดวงความรักของคุณจะมีความเงียบๆ เหงาๆ ปรากฏขึ้นอยู่เสมอในหลายๆ ช่วง แม้ขณะที่มีรักก็เหงาได้ คุณจะพบรักได้ง่ายมาก ความอ่อนไหวของหัวใจอาร์ตติสต์ของคุณจะทำให้เรียกร้องและต้องการความรักอยู่ตลอดเวลาเชียวแหละ

> เลือกเดือนเมษายน
ดวงความรักของคุณเจิดจ้าเหมือนไฟ บางช่วงก็เจอปุ๊บรักปั๊บ บางช่วงก็มีแต่ควันกรุ่นๆ คือมีรักแต่ไม่มีแฟน คุณเป็นคนที่ตัดใจเก่ง สลัดรักได้อย่างคาดไม่ถึง เพราะคุณมักมองหาคนที่จริงใจ และกระตือรือร้นมากกว่าคนเลื่อนลอยไร้สาระ

> เลือกเดือนพฤษภาคม
ดวงความรักของคุณอบอุ่นมาก ด้วยเพราะเป็นคนที่ไม่ชอบรักเล่นๆ คุณจะค่อยๆ ดูคนที่คุณชอบอย่างใจเย็น ถ้าใช่จริงก็จะเปิดตัวเปิดใจ คุณมักจะดูแลเทคแคร์แฟนมาก แต่ช่วงใดที่เจอคนชอบหวือหวาเกินไปก็จะคบกันไม่ยืดแน่ๆ

> เลือกเดือนมิถุนายน
ดวงความรักของคุณไม่เงียบเหงาแต่ก็ไม่มั่นคงนัก คุณจะพบรักบ่อย แต่ตัวคุณไม่ค่อยจริงจักนัก แม้จะดูเอาใจแฟนเก่งแต่ลึกๆ แล้วยังคงมองหาคนที่ดีกว่าอยู่เสมอ ดวงรักจึงเปลี่ยนแปลงบ่อย เพราะใจคุณไม่ค่อยจะอดทนอะไรได้นานนัก

> เลือกเดือนกรกฎาคม
ดวงความรักของคุณหวานแหววเสมอ เพราะคุณน่ะเป็นคนประเภทขาดความรักไม่ได้ ชอบทำอะไรหนุงหนิง กับแฟนให้คนอื่นอิจฉา คุณตกหลุมรักง่ายแต่ก็เลือกมาก ดวงของคุณถ้าคบใครก็จะคบนานเลยเชียวล่ะ

> เลือกเดือนสิงหาคม
ดวงความรักของคุณสดใสมาก หัวใจไม่เคยว่างตามประสาคนเจ้าชู้เสน่ห์แรง คุณจะพบความยุ่งยากให้ปวดหัวบ่อย ในเรื่องรักซ้อนซ่อนกิ๊ก...

> เลือกเดือนกันยายน
ดวงความรักของคุณเป็นอะไรที่ชัดเจนและมั่นคงมาก เพราะตัวคุณเองมองเรื่องรักว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่หลายครั้งที่ความละเอียดเกินไปของคุณอาจทำให้มีผลกระทบไปถึงเรื่องรักได้ ถึงยังไงก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า เพราะคุณจะมีรักที่อบอุ่นลึกซึ้งเสมอ และไม่เคยคบใครแค่ช่วงสั้นๆ แน่นอน

> เลือกเดือนตุลาคม
ดวงความรักของคุณไม่เคยหม่นมัว หัวใจรักของคุณแสวงหาความรักอยู่เสมอ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยนะ ถ้าเจอคนถูกใจแต่พอคบๆ กันไปแล้วคุณรู้สึกว่าไม่ใช่คุณก็จะมองหาคนใหม่ทันที (จริงรึเปล่า)

> เลือกเดือนพฤศจิกายน
ดวงความรักของคุณน่ะไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ คุณเป็นคนรักแรงเกลียดแรง ทุกครั้งที่คบใครจะคบจริงจัง และทุ่มเทหมดใจ เมื่อผิดหวังจึงเจ็บมากเป็นพิเศษ แม้คุณจะดูหยิ่งๆ และเย็นชาก็เถอะนะ

> เลือกเดือนธันวาคม
ดวงความรักของคุณมักจะปิ๊งกับคนที่อยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ หรือคนรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน คนที่คุณรักมักจะเป็นคนที่คาดไม่ถึงเสมอในสายตาเพื่อนๆ ของคุณ ในเส้นทางรักนั้นคุณจะมีความอดทนสูงมาก


เรื่องจาก Forward Mail

12 ปีนักษัตรกับความรัก



ปีจอ (หมา)
เรื่องราวของคนเกิดปีสุนัข รู้สึกจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนพิศดารพอสมควร แม้จะลึกๆ แล้ว หนุ่มสาวปีจอ จะมีความซื่อสัตย์ไม่กระล่อนหลอกลวงใครก็ตาม แต่ความลับที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจไม่มีใครล่วงรู้ได้หรอกนะ เขาและเธอถ้ารักก็บอกว่ารัก ชอบก็บอกว่าชอบ ประเภทให้มานั่งจีบพร่ำรำพันบอกรักเช้าเย็น คนปีจอเขาไม่ทำกันหรอก วิธีแสดงความรักของเขา ก็แค่ส่งสายตาบอกภาษาใจก็พอแล้ว ชาวปีจอนิยมความรักแบบเงียบไม่กระโตกกระตาก บางทีเป็นแฟนกันมาเกือบปี ในที่ทำงานก็ยังไม่มีใครรู้ว่า พ่อหนุ่มคนนี้เป็นแฟนกับใคร จนมีใครไปแอบเจอโน่นแหละความลับจึงแตก คนเกิดปีนี้เป็นคนประเภทหงิม สนิมหลบใน เห็นท่าทางเงียบๆ อย่างนี้แล้ว อย่าคิดว่าเรื่องความรักความใคร่จะไม่ได้เรื่อง บทรักของเขาไม่เบาหรอกนะจะบอกให้ คนเกิดปีจอก็มีปัญหาวุ่นวายกับเขาเหมือนกัน ประเภทเรื่องความรักความใคร่นี่แหละ เพราะความไม่แคร์โดยไม่กลัวเปลืองตัวของเขา บางครั้งแค่อยากลองสนุก แต่จะถอนตัวก็ลำบากเหมือนกันนะ เมื่อมีแฟนเป็นตัวเป็นตนนั่นแหละ ชาวปีจอจึงจะหยุดพฤติกรรมอย่างว่าได้หมด แล้วหันมารักเดียวใจเดียวได้ทันทีเหมือนกัน

ปีชวด (หนู)
เพราะความว่องไวปราดเปรียวของเจ้าหนูจอมซน จึงทำให้ความรักของคนเกิดปีนี้อลเวงร้อนแรงชนิดไฟแรงสูงทั้งหญิงและชาย ชาวปีชวดขนานแท้รับรองเรื่องเซ็กซ์ขององเขาไม่เป็นสองรองใคร อาจถึงขั้นใฝ่หาเลยทีเดียว คนเกิดปีชวดถ้าได้รักใครแล้วจะทุ่มเทแบบสุดๆ แต่อย่าให้เขาเกลียดเชียวนะ พลังความเกลียดของหญิงชายชาวปีหนู รุนแรงยิ่งกว่าพายุทอร์นาโดเสียอีก และก็เพราะความรุนแรงยิ่งกว่าพายุหมุนนี่เอง เวลาที่เขาพลาดหวังจากความรัก เขาจะฟูมฟายซะใหญ่โต แต่ก็เป็นเพียงแป๊บเดียว เมื่อคลื่นลมสงบ เขาและเธอก็จะมีความรักใหม่หมุนเวียนเข้ามาในชีวิตอย่างต่อเนื่อง ด้วยพื้นดวงของปีเกิด พวกเขาเกิดมาพร้อมกับเสน่ห์เลยทีเดียว ใครพบเห็นก็หลงใหลปลาบปลื้ม หมุนเวียนเข้ามาแต่ก็มิไดจีรังยั่งยืน เพราะตัวเขาเองที่เป็นประเภท รักง่ายหน่ายเร็ว หนุ่มสาวปีชวดมักไม่จริงจังกับแก่นสารสาระของชีวิตสักเท่าใด ไม่ค่อยจะดิ้นรนหาความมั่นคง เพราะชอบหมกมุ่นอยู่กับความรัก และกามารมณ์เป็นยอดปรารถนาเหนือสิ่งอื่นใด

ปีฉลู (วัว)
วัวเป็นสัตว์ใหญ่เชื่องช้าแต่ทำอะไรได้หลายอย่าง ความรักของคนที่เกิดปีนี้จึงมักอบอุ่นละมุนละไม เขาและเธอที่เกิดปีวัว มักเป็นคนหนักแน่น ลองได้รักใครแล้วก็มักจะรักจริง ถึงจะเป็นคนออกนอกลู่นอกทางบ้างก็เป็นแค่น้ำจิ้ม ไม่เคยจริงจังหรือคิดนอกใจใดๆ หรอกน่า คนเกิดปีฉลูถึงเจ้าชู้ก็เจ้าชู้แบบเงียบไม่กระโตกกระตาก ถ้าเขาคิดจะมีบ้านเล็กบ้านน้อย คงยากหรือนานทีใครจะรู้ได้ หนุ่มสาวปีวัว ไม่ชอบความโลดโผนในเรื่องความรัก ประเภทเจ้าชู้ไก่แจ้หาได้ยากมาก เพราะคนเกิดปีวัว ส่วนใหญ่จะรักบ้านรักครอบครัว ไม่น่าแปลกสำหรับสามีที่เกิดปีฉลู จะกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน หรือไม่ก็ต้องโทรศัพท์บอกภรรยาทุกครั้งที่กลับผิดเวลา แม้จะดูเรียบง่าย แต่ไม่ว่าชายหรือหญิง ก็ไม่เป็นสองรองใครในเรื่องความรักหรอกนะ เป็นคนไฟแรงพอสมควรเชียวล่ะ อารมณ์ของเขาอาจจะหวั่นไหว ถ้ามีคนที่ต้องตาถูกใจมานั่งข้าง ทำให้หัวใจที่สุขุม นุ่มลึก สั่นสะท้านได้ง่ายเหมือนกัน เขาหรือเธอเป็นคนพูดน้อยแต่ต่อยหนัก เมื่อชอบใครจะไม่พูดออกมาตรง ประเภทมานั่งจีบ ออดอ้อน ค่อนข้างจะหาได้ยากสักหน่อย เขาจะแสดงออกด้วยการกระทำหรือส่งสายตา โปรยเสน่ห์บอกความนัยให้เขารู้เขาเรียกว่าเจ้าชู้ทางสายตาไงล่ะ

ปีขาล (เสือ)
แม้เป็นเสือที่มีเขี้ยวเล็บแพรวพราว แต่ชาวปีขาลกลับมีความอ่อนไหวในเรื่องความรัก จึงไม่น่าแปลกที่แวดวงคนเกิดปีนี้จะอบอวลไปด้วยความรักอย่างมากมาย แต่กว่าจะหารักแท้หรือที่จะเป็นคู่ชีวิตก็ยากเต็มที เพราะความเป็นเสือซึ่งก็บอกยี่ห้ออยู่แล้วว่า ทั้งเขาและเธอ รับรองคุณภาพของความเจ้าชู้ได้ทุกคน จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความร้อนแรงของวันเกิดและเดือดเกิดอีกที คนเกิดปีขาลเป็นคนที่เริ่มต้นใหม่กับความรักได้เสมอ เข้าทำนองอกหักดีกว่ารักไม่เป็น ลูกเล่นในเรื่องความรักความใคร่แพรวพราว คารมคมคายน่าหลงใหล คนเกิดปีนี้จึงทำให้คนรักได้ไม่ยากเย็น หนุ่มสาวปีขาลไม่ชอบหลอกตัวเอง เป็นคนใจแข็งปานเหล็ก เรียกว่าต่อให้รักขนาดไหน ถ้ามีสิ่งที่ไม่พอใจมากระทบความรู้สึก ประเภทที่รับไม่ได้ก็ตัดใจได้ทันทีเหมือนกัน ลักษณะเฉพาะตัวที่เด่นๆ ของเขาอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความเป็นคนช่างสังเกต แม้ต่อหน้าเหมือนไม่ใส่ใจอะไรเลย แต่ถ้าเป็นคนที่ถูกใจใครจับจะตาคนๆ นั้น ประเภทไม่ให้พลาดเลยทีเดียว คนปีเสือมักจะมีเรื่องประหลาดเกี่ยวกับความรักเกิดขึ้นกับเขาอยู่เสมอ ถ้าเขาหลงรักใครก็จะหัวปักหัวปำประเภทเอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่แต่สำหรับความผิดหวังแล้วเป็นคนละเรื่อง เมื่ออกหักก็จะจากไป ไม่ให้ความทุกข์ตามไปด้วยเป็นอันขาด

ปีเถาะ (กระต่าย)
คนเกิดปีเถาะ เปรียบเสมือนกระต่ายน้อยไต้แสงจันทร์อ่อนไหว อ่อนโยน มีจินตนาการเพ้อฝัน และไม่ค่อยหนักแน่นมั่นคงในเรื่องความรัก หินผายังโดนกัดกร่อนแล้วหัวใจอ่อนๆ จะไม่แปรปรวนได้อย่างไร ฉะนั้นถ้าคิดจะรักคนเกิดปีเถาะ ก็ต้องเผื่อใจไว้เจ็บบ้าง อย่าหวังกับความยั่งยืนกับกระต่ายน้อย เขาหรือเธอต่างก็มีหัวใจเปราะบาง ถ้าใครมาทำดีด้วยก็หลงใหลปลื้มแบบสุด คิดเลยเถิดจนถึงขั้นอยากจะควงแขนให้หายเปลี่ยวใจ ชายปีกระต่ายเวลารักชอบใคร มักจะคิดไปไกลถึงขั้นสัมพันธิ์สวาท หากมีจังหวะและโอกาสมักจะพลาดเขายาก หนุ่มสาวปีกระต่ายขี้หึงแบบสุดประเภทของๆ ข้าใครอย่าแตะ ปัญหาเรื่องความรักของคนเกิดปีนี้ จึงมาจากเรื่องนี้เป็นส่วนใหญ่ ความน่ารักอีกอย่างหนึ่งของคนเกิดปีกระต่ายคือ มักมีเทคนิคสร้างสีสันในเรื่องความรักให้แปลกใหม่อยู่เสมอ คู่รักของคนเกิดปีนี้ ไม่มีคำว่าเบื่อหรือไร้อารมณ์อย่างเด็ดขาด พื้นดวงของเขา เป็นคนปรารถนาความรักอย่างสุดยอด คนเกิดปีกระต่ายจึงมีหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักอยู่ตลอดเวลา แม้วัยจะล่วงเลยผันผ่านไปนานขนาดไหนก็ตาม

ปีมะโรง (งูใหญ่)
หนุ่มสาวชาวงูใหญ่มักมีนิยายอมตะเกิดขึ้นในชีวิตอยู่เสมอ เพราะคนเกิดปีนี้จะให้ความสำคัญกับเรื่องความรัก ยกย่องบูชาเหนือสิ่งอื่นใด ในการที่จะหาหรือเลือกคนรักสักคน เขาและเธอที่เกิดปีมะโรง จะไม่สนใจในฐานะหรือชาติตะะกูล มาประกอบในการตัดสินใจ ถ้าพอใจเสียอย่างยังไงก็ได้นะ พวกเขามีความโรแมนติกไม่เบาเชียวแหละ หนุ่มสาวชาวงูใหญ่มีอารมณ์รักอยู่ในขั้นที่ใช้ได้ แต่เป็นประเภทที่อ่อนหวาน นุ่มนวลซะมากกว่า คนเกิดปีนี้ถ้าเจ้าชู้ก็เป็นแบบเจ้าชู้เงียบแต่ไม่สำส่อน สามารถยับยั้งชั่งใจได้ดี สาวชาวงูใหญ่อาจจะเลือกผู้ชายที่ขี้เหร่ที่สุดมาเป็นแฟน ทั้งๆ ที่มีคนมาจีบจนหัวบันใดไม่แห้ง เรียกว่ามีอะไรแปลกๆ ให้เซอร์ไพรสอยู่เสมอ เช่นเดียวกับหนุ่มชาวงูใหญ่ ที่อาจเลือกสาวที่ใครๆ ต้องเบือนหน้ามาเป็นแฟน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกและพฤติกรรมของเขา สามารถครองความรักได้นานเลยทีเดียว เวลาที่ชาวงูใหญ่รักใคร มักคอยห่วงหาอาทรคอยดูแลเอาใจใส่คนรักเหมือนไข่ในหิน ประเภทจงอางหวงไข่เลยแหละ

ปีมะเส็ง (งูเล็ก)
เพราะความปราดเปรียวและมีเสน่ห์ของชาวงูเล็ก คนเกิดปีนี้จึงมักมีแฟนมากมาย บางช่วงชีวิตต้องเจอกับเรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับความรักเสียจนน่าปวดหัว แต่บทจะปักหลักกับใคร ก็หยุดเลื้อยเอาเสียดื้อๆ ยังงั้นแหละ ชาวงูเล็กมักมีความรักแบบร้อนแรงประเภทเจ้าชู้ประตูดิน บางคนอาจมีคู่ควงแทบไม่ซ้ำหน้าเลยทีเดียว ความเป็นคนมีเสน่ห์ทั้งชายและหญิง ถึงไม่หล่อหรือสวยแต่สาวแก่แม่ม่ายตอมกันหึ่ง เพราะทั้งลีลาและคารมของเจ้าประคุณ มันช่างจับใจอย่าบอกใครเชียว แม้ชาวงูเล็กจะเข้าข่ายประเภทเจ้าชู้ แต่ถ้าได้ใครมาเป็นแฟนแล้ว บอกได้เลยว่าขี้หึงที่สุด เรียกว่าข้าทำไม่เป็นไร แต่เมื่อเป็นของข้าแล้วห้ามใครยุ่งเด็ดขาด หนุ่มสาวชาวปีมะเส็งมักเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง ใจร้อนก็เป็นที่หนึ่ง ปัญหาเรื่องความรักส่วนใหญ่ก็มีสาเหตุจากตัวเองนั่นแหละ คนเกิดปีนี้มีรักมากก็จริง แต่มักอาภัพคู่ที่แท้จริง ถึงจะมีมากมาย ง่ายแต่ก็ไม่ยังยืน เรื่องนี้คนปีงูเล็กต้องทำใจ เพราะไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ไปเสียทุกอย่างหรอก

ปีมะเมีย (ม้า)
ถึงจะเป็นม้าศึกแต่กลับไม่คึกสักเท่าไหร่ ความรักของคนเกิดปีมะเมีย จึงไม่หวือหวาโลดโผนเหมือนคนอื่นเขา ความรักเป็นแบบเรื่อยๆ ซะมากว่า หญิงที่เกิดปีม้าเรียกได้ว่าเป็นสาวเสน่ห์แรง เรียกได้ว่ามีมาไม่ขาด ดังสายน้ำไหลเลยทีเดียว และแน่นอนเรื่องปวดหัวใจก็จะเป็นเรื่องอะไรล่ะ เพราะความรักที่มีแต่คนมาเสนอให้นี่เอง หนุ่มสาวชาวปีมะเมียมีความชอบที่เหมือนกันอยู่อย่างก็คือ ชอบให้คนอื่นมาคอยเอาอกเอาใจ ดูแล ห่วงใย ถ้ารู้ใจเธอข้อนี้แล้วไม่ผิดหวังหรอกนะ ถ้าหากเกิดมีคนรักเป็นชาวปีมะเมียแล้ว เกิดเป็นคนที่เอาใจใครไม่เป็น ห่างหาย ขาดความสม่ำเสมอแล้วล่ะก็ เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย เพราะสิ่งนี้คนเกิดปีมะเมียต้องการมากเลยทีเดียว หนุ่มสาวปีม้า มักเป็นคนหน้าตาดี จึงมักติดนิสัยหลงตัวเอง ประเภทชอบมองกระจก เป็นนกหงษ์หยกเลยทีเดียว ชอบคิดอยู่เสมอว่า ตัวเองช่างหล่อหรือสวยเสียนี่กระไร คนเกิดปีนี้คิดว่าตัวเองต้องเริด เป็นหนึ่งเท่านั้น ถ้าเป็นสองรองใครเห็นทีจะทำใจลำบาก เพราะฉะนั้นถ้าคุณเป็นคนรักเดียวใจเดียว มั่นใจได้เลยว่าผูกมัดใจเขาได้แน่นอน แต่ถ้าไม่มาทั้งใจ ชาวปีม้าก็โบกมือลาไม่เหลือเยื่อใยทันที งานนี้ม้าสาวมักจะคึกกว่าม้าหนุ่ม เพราะพื้นดวงบ่งบอกว่าเธอใช้แฟนเปลืองเสียนี่กระไร ถ้าคิดจะรักสาวปีม้าก็ต้องเผื่อใจเอาไว้บ้าง

ปีมะแม (แพะ)
ใครที่เคยเห็นแพะเป็นสัตว์ที่เซื่อง แต่เอามาเปรียบกับคนที่เกิดปีแพะไม่ได้หรอกนะ เขาและเธอช่างเฮงเสียเหลือเกินในเรื่องความรัก มีความโดดเด่นมากกว่าเรื่องงาน และการเงินอย่างเหลือเชื่อ หนุ่มสาวที่เกิดปีนี้ พวกเขาต่างมีอารมณ์โรเเมนติก สุนทรีย์ในเรื่องความรักเป็นอย่างยิ่ง มีอารมณ์อย่างล้นเหลือ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พวกเขามีความคิดไปไกลเป็นพิเศษ เพราะเพียงเริ่มมีความรัก เขาก็ฝันไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดเลยทีเดียว ชาวแพะรักใครชอบใครก็มักหลงใหลใฝ่ฝันเลยทีเดียว ชอบพร่ำเพ้อละเมอหา ชนิดที่เรียกว่าคลั่งรัก คนเกิดปีนี้พิสูจน์ได้ในสัจธรรมที่ว่าความรักทำให้คนตาบอดได้ชัดเจน การที่ทุ่มเทความรักให้คนอื่นมากมายเช่นนี้ เวลาที่เขาผิดหวัง คนปีแพะจึงต้องทรมานเป็นนานแสนนานกว่าจะหาย ดูเหมือนหัวใจของคนเกิดปีแพะ จะเป็นหัวใจสะออน เพราะแม้จะเจ็บปางตายจากความรัก แต่เขาก็ไม่เคยเข็ดอะไรหรอก พอรักใครก็จะทุ่มเทอีหรอบเก่า จนอาจถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนที่เกิดปีนี้กว่าจะเจอคู่แท้ ก็ต้องใช้เวลานานพอควร จนหัวใจเริ่มชินนั่นแหละ และเมื่อเจอคู่แท้แล้ว มักเป็นคู่ที่อุปถัมภ์ค้ำจุนกันดีนักแล

ปีวอก (ลิง)
คนเกิดปีวอกกับความอลเวงในเรื่องความรัก มักเป็นของคู่กัน เพราะเขาและเธอชาวปีวอกเป็นคนน่ารัก ช่างพูดช่างเจรจา งามงอน จริตมารยาชนิด 600 เล่มเกวียน หนุ่มชาวปีวอกเจ้าชู้เงียบ กรุ้มกริ่ม ขี้อ้อน เอาใจ เวลาปิ๊งใครขึ้นมา อย่าคิดว่าเขาจะบุ่มบ่าม ลุกลี้ลุกลน แต่ตรงข้ามเขาจะสงวนท่าที เก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ให้เสียฟอร์ม หนุ่มสาวชาวปีวอกเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ถ้าจับไม่มั่นคั้นให้ตาย อย่าหวังจะได้ความลับหรือจับโกหกเขาได้หรอก ในเรื่องความรัก เขาและเธอมีชั้นเชิงแพรวพราว ทั้งรุกและรับ เรียกว่าเดินตามแผนการเผด็จศึกพิชิตใจ ครบทุกกระบวนท่าเลยทีเดียว บางทีถึงแม้เขาจะแอบชอบใครเป็นทุนเดิม แต่สาวปีวอกกลับทำท่าหยิ่งไม่สนใจ ถ้ารู้ตัวว่าจะแห้วนั่นแหละ เธอถึงจะเดินเกมใหม่เป็นฝ่ายรุกแทน คนเกิดปีวอกทั้งชายและหญิง เป็นแฟนใครก็ดูน่ารัก เพราะพวกเขาใจเย็น ใส่ใจในความรู้ศึกของคนอื่นอยู่เสมอ ไม่ชอบเอะอะโวยวาย มักพูดจากันด้วยเหตุผล มากกว่าจะระเบิดอารมณ์ข้าใส่กัน ชาวปีวอกเป็นคนช่างเลือก ถ้ายังไม่ตกลงปลงใจกับใคร ก็จะขอคบไปเรื่อยๆ ก่อน แต่ไม่รับปากนะว่าจะไม่คบคนอื่นไปด้วย เขาจะเลือกคนที่ถูกใจเขามากที่สุด แต่ก็เพียงเข้ากันได้ ไปกันด้วยดี เข้าใจซึ่งกันและกันเท่านี้เองที่ถูกใจเขา ถ้าเขาได้เลือกแล้ว รับรองเขาจะเป็นลิงที่เชื่องๆ ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง

ปีระกา (ไก่)
คำเปรียบเทียบของคนโบราณ สำหรับคนเจ้าชู้ประเภทหนึ่งไปเหมือนไก่แจ้ แสดงว่าธรรมชาติของไก่ ต้องมีกุ๊กกิ๊กเป็นเรื่องธรรมดา หนุ่มสาวชาวราศีนี้จะมีบ้างก็จะเป็นไรไปนะ หนุ่มสาวปีไก่ไม่เคยห่างหายจากความรัก เวลารักใครแล้ว เขาจะให้เกียรติและความสำคัญกับคนรักมาก คอยดูแลเอาใจใส่แม้กระทั่งความรู้สึกเล็กน้อยก็คอยเก็บตกอยู่เสมอ เขาและเธอมีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งคือ ตื๊อเก่งชะมัด ถ้าลองได้ปิ๊งใครแล้วรับรองเช้าเย็นและทุกเทศกาล เขาไม่เคยลืมที่จะแวะเวียนหรือซื้อของขวัญติดไม้ติดมือให้กับคนที่เขารักไม่ว่างเว้น หนุ่มสาวปีระกาเป็นคู่รักที่น่ารักมาก เขามักจะเติมสีสันให้กับชีวิตรักอยู่เสมอ ทั้งนอกบ้านและในบ้าน หรือแม้เรื่องบนเตียงนอน เรื่องนอกใจหรือแบ่งปันความรักให้คนอื่นแทบจะไม่มี ข้อผิดพลาดของคนเกิดปีไก่ในเรื่องความรักก็คือ การมองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยบางอย่างไป ถ้าได้แฟนที่ไม่เข้าใจกัน เรื่องก็อาจบานปลายกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปได้โดยไม่รู้ตัว คนเกิดปีไก่ชอบมองโลกในแง่ดี จนบางทีก็เกินไป จึงทำให้ผิดหวังในเรื่องความรักอยู่บ่อยๆ บางทีเพื่อนมาแย่งแฟนก็แสนจะปวดใจทีเดียว

ปีกุน (หมู)
คนปีหมูดูน่ารักแต่ทำคนอกหักมานับไม่ถ้วน อารมณ์ของหนุ่มสาวชาวปีกุนก็ร้อนแรงเหมือนกันนะ ถ้าเป็นสาวก็ประเภทไฟแรงสูง ถ้าเป็นหนุ่มก็อยู่ในกลุ่มฮิตาชินั่นแหละ เขาและเธอเป็นคนมีเสน่ห์ใครเห็นก็อยากใกล้ชิด และก็อย่างที่บอกนั่นแหละคนเกิดปีนี้เขามีไฟ ถ้าเข้าใกล้ก็จะวูบวาบได้ง่าย พวกเขาจริงจังในทุกๆ เรื่อง ยกเว้นในเรื่องความรัก ถ้าใครจะรักชาวปีกุนก็ต้องทำใจซักหน่อย เพราะเขาและเธอออกจะรวนเรและหวั่นไหวง่าย มีหัวใจที่เปลี่ยนแปลงเหมือนกังหันต้องลมเลยแหละ ยิ่งไปกว่านั้น เขาและเธอยังเป็นคนที่ไม่ยอมหักห้ามใจ มีไฟรักอยู่เต็มเปี่ยม โรคประจำตัวของคนเกิดปีนี้คือการแพ้คนหล่อคนสวย แบบที่ว่าหน้าตาดี อย่าได้ย่างกรายเข้ามาใกล้เชียว ทำให้คนเกิดปีกุนจะหลงรักเอาง่ายๆ เลยล่ะ ถ้ารู้จุดอ่อนของตัวเองแล้ว ต้องควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้ความวุ่นวายในชีวิตก็จะลดลงมากทีเดียว คนเกิดปีกุนที่เป็นผู้หญิงจะดีกว่าผู้ชายเล็กน้อยในเรื่องคู่ครองและความรัก คือถ้าเจอคู่แท้ก็แล้วไป สาวเจ้าก็จะได้ไม่เปลืองตัวและปล่อยใจให้กับใครๆ อีก แต่สำหรับหมูหนุ่ม จะไม่หยุดอยู่แค่นั้นหรอก จึงมักจะหาคนจริงจังได้ยากสักหน่อย ตำราบอกว่าผู้หญิงปีกุนส่วนมากมักจะมีคู่ที่อ่อนวัยกว่านะ

เรื่องจาก Forward Mail

ปรับแต่งฮวงจุ้ยกระตุ้นความรัก



นอกจากเรื่องของสุขภาพอนามัยและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ฮวงจุ้ยยังส่งผลต่อความรักของผู้อยู่อาศัยด้วย โดยบ้านแต่ละหลังจะมีทิศทางหรือมุมที่มีพลังเสน่ห์ประจำตัวของแต่ละบุคคลแฝงอยู่ ได้แก่.

1. คนเกิดปีชวด, วอก, มะโรง ทิศทางที่มีพลังแฝงของเสน่ห์ประจำตัวคือ ทิศราศีระกา (ทิศตะวันตก)

2. คนเกิดปีขาล, มะเมีย, จอ ทิศทางที่มีพลังแฝงของเสน่ห์ประจำตัวคือ ทิศราศีเถาะ (ทิศตะวันออก)

3. คนเกิดปีกุน, เถาะ, มะแม ทิศทางที่มีพลังแฝงของเสน่ห์ประจำตัวคือ ทิศราศีชวด (ทิศเหนือ)

4. คนเกิดปีมะเส็ง, ระกา, ฉลู ทิศทางที่มีพลังแฝงของเสน่ห์ประจำตัวคือ ทิศราศีมะเมีย (ทิศใต้)

การที่จะดูว่าเราเกิดปีใดให้ใช้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นปีใหม่มิใช่วันที่ 1 มกราคมตามที่เข้าใจกัน เช่นคนเกิดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 บุคคลผู้ที่จะเป็นปีวอก มิใช่ปีระกา เป็นต้น ไม่เพียงแต่เราจะใช้ปีเกิดในการหาทิศเสน่ห์ วันที่เกิดเราก็สามารถหาทิศเสน่ห์ได้เช่นเดียวกัน แต่จะต้องมีการคำนวณที่สลับซับซ้อน ผู้อ่านท่านใดสนใจกรุณาเข้าไปผูกดวงได้เว็บบอร์ดครับ

นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับการเสริมเสน่ห์คือ นำแจกันดอกไม้สดไปวาง ณ มุมของบ้านทิศนั้นๆ โดยต้องคอยดูแลดอกไม้ให้สวยงามและสดอยู่เสมอ สาเหตุที่ใช้ดอกไม้เพราะมีความเชื่อว่า ดอกไม้ทุกชนิด นอกจากจะกระจายฮอร์โมนเพื่อดึงดูดให้แมลงมาดอมดมเกสรแล้ว ยังทำให้ร่างกายมนุษย์มีปฏิกิริยาหลั่งฮอร์โมนพิเศษออกมาด้วย ฮอร์โมนนี้เองจะเป็นตัวกระตุ้นความรู้สึกรัก ชอบ หรือความรู้สึกทางเพศของบุคคลที่เราเข้าไปใกล้ชิด หรือที่เรียกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดนั่นเอง


การจะกระตุ้นพลังเสน่ห์ของแต่ละบุคคลให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพคือ ต้องดูแลพื้นที่บริเวณนั้นให้สะอาดเรียบร้อย ดูแล้วสบายตา มองแล้วสบายใจ แล้วจะส่งผลให้พลังเสน่ห์ที่แฝงอยู่ตามทิศเหล่านั้นกระจายพลังที่ดีออกมาให้กับผู้อาศัยภายในบ้านได้


หลักการวางแจกันดอกไม้ในทิศทางที่มีพลังแฝงของเสน่ห์ของแต่ละคน คือ

1. ทิศระกา (ทิศตะวันตก) เหมาะสำหรับวางแจกันโลหะ หรือแจกันสีขาว ประดับด้วยดอกไม้สดสีเหลือง หรือ สีขาว จำนวน 8 ดอก

2. ทิศราศีเถาะ (ทิศตะวันออก) เหมาะสำหรับวางแจกันสีดำ หรือ สีน้ำเงิน หรือสีฟ้า ประดับด้วยดอกไม้สดสีเขียว หรือ สีฟ้า หรือ สีน้ำเงิน จำนวน 1 ดอก

3. ทิศราศีชวด (ทิศเหนือ) เหมาะสำหรับวางแจกันโลหะ หรือ แจกันสีขาว หรือสีดำ ประดับด้วยดอกไม้สีขาว หรือสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน จำนวน 6 ดอก

4. ทิศราศีมะเมีย (ทิศใต้) เหมาะสำหรับวางแจกันสีเขียว หรือ สีแดง หรือแจกันที่ทำจากวัสดุที่เป็นไม้ ประดับด้วยดอกไม้สีแดง หรือ ดอกไม้สีเขียว และต้องเป็นพันธุ์ที่ไม่มีหนาม จำนวน 9 ดอก

วันเกิดบอกนิสัยและเนื้อคู่


คุณเป็นคนยังไง แล้วเนื้อคู่ของคุณต้องเป็นคนแบบไหน เค้าคนนั้นต้องเกิดวันอะไร มาดูกันเลย

ผู้ชายที่เกิดวันอาทิตย์ เป็นคนมาดขรึม ท่าทางสุขุมนุ่มลึก ผู้ชายที่เกิดวันนี้จะไม่ชอบผู้หญิงที่เปรี้ยวเกินไป แต่ก็ไม่เฉื่อยแฉะเกินไปด้วย เป็นคนค่อนข้างหัวโบราณสักหน่อย ชอบผู้หญิงรูปร่างสันทัด ความรักที่เจอมักจะเป็นแบบรักแรกพบ ประเภทส่งสายตาปิ๊งกันมากกว่า เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันศุกร์

ผู้หญิงที่เกิดวันอาทิตย์ เป็นคนที่มีความคิดโลดแล่น รวดเร็ว และใจร้อน เนื้อคู่จะเป็นคนรูปร่างใหญ่หรือไม่ก็สันทัด ผิวค่อนข้างจะคล้ำ หรือไม่ก็ดำแดงมากกว่าเหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันอังคาร วันพุธ

ผู้ชายที่เกิดวันจันทร์ เป็นคนอ่อนน้อม ช่างวิตกกังวล แต่ชอบการต่อสู้แข่งขัน ผู้ชายที่เกิดวันนี้จะเจ้าชู้ แล้วก็ช่างเลือก เขาจะชอบผู้หญิงที่รูปร่างสันทัด สัดส่วนดี ผิวขาว เอาใจเก่ง เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี วันเสาร์

ผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ เป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่ก็อ่อนหวานได้เหมือนกัน มีนิสัยร่าเริง รักสนุก มักเลือกผู้ชายที่รูปร่างกำยำเป็นสุภาพบุรุษ ที่สำคัญต้องเอาใจเก่งด้วย เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันพุธ วันเสาร์

ผู้ชายที่เกิดวันอังคาร มักชอบพูดจาขวานผ่าซาก และดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เป็นคนโรแมนติกทีเดียว จะชอบผู้หญิงที่อ่อนหวานนิ่มนวล ผิวไท่ขาวหรือดำจนเกินไป แต่ถ้าผิวดำแดงจะถูกใจเป็นพิเศษ ส่วนรูปร่างน่ะไม่สำคัญ เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันศุกร์

ผู้หญิงที่เกิดวันอังคาร เป็นคนรอบรู้ ช่างเจรจา แต่จะเป็นคนดื้อรั้น ไม่ค่อยจะยอมใคร เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันจันทร์ วันศุกร์

ผู้ชายที่เกิดวันพุธ เป็นคนช่างคิด ใจกว้าง รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น น่ารักทีเดียว ชอบผู้หญิงที่อ่อนหวาน แต่งตัวนำสมัย มักจะปิ๊งเพื่อนร่วมชั้นหรือเพื่อนที่ทำงาน แรกๆอาจไม่ถูกชะตาแต่ต่อไปก็ยิ่งซึ้งน้ำใจมากขึ้นเอง เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันพุธ

ผู้หญิงที่วันพุธ เป็นคนที่อารมณ์อ่อนไหวง่าย และมีเสน่ห์ดึงดูดใจมาก จะชอบผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่และผิวสองสีหรือผิวดำแดง เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันพุธ วันศุกร์ วันเสาร์

ผู้ชายที่เกิดวันพฤหัสบดี ชอบเป็นผู้นำ ช่างพูด จริงใจ ชอบผู้หญิงที่ค่อนข้างเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องสวยเลิศเลออะไรนัก แต่ต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ชอบผู้หญิงผิวขาว โดยเฉพาะรูปร่างอวบๆ จะถูกใจมาก เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี วันศุกร์

ผู้หญิงที่เกิดวันพฤหัสบดี เป็นคนถือตัว บางทีอาจดูเหมือนหยิ่ง แต่ก็ชอบช่วยเหลือคนอื่น มักจะมองผู้ชายที่สุภาพ นุ่มนวล มีความรู้ มีเกียรติ แต่ถ้าเพื่อนๆที่ออกจะโลๆ ละก็ไม่ถูกใจเธอแน่เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันเสาร์

ผู้ชายที่เกิดวันศุกร์ เป็นคนฉลาด พูดจามีเสน่ห์ แต่อารมณ์มุทะลุ โกรธง่ายแต่หายเร็ว ชอบผู้หญิงที่เรียบร้อย ไม่ช่างพูดจนเกินไปและต้องใจเย็นทนอารมณ์แปรปวนเขาได้ เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันอังคาร วันเสาร์

ผู้หญิงที่เกิดวันศุกร์ เป็นคนพูดจาอ่อนหวานรักสวยรักงาม พูดจาตรงไปตรงมาดี มีนิสัยน่ารัก คือชอบช่วยเหลือคนอื่น มักชอบผู้ชายที่มาดขรึม และสุภาพ เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันอังคาร วันพฤหัสบดี วันอาทิตย์

ผู้ชายที่เกิดวันเสาร์ เป็นคนเด็ดเดี่ยว หูเบา เชื่อคนง่าย ชอบผู้หญิงรูปร่างสเลนเดอร์ สูงโปร่ง ผิวขาว มีเสน่ห์ที่ดวงตา และการพูดจา เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันศุกร์

ผู้หญิงที่เกิดวันเสาร์ จะเป็นคนหัวรั้นซักหน่อย จึงไม่ค่อยแคร์ใครๆ มักจะปิ๊งแบบฉับพลัน มากกว่ามองกันเป็นชาติ จะชอบคนที่ค่อนข้างผิวขาวมากกว่าผิวดำ เหมาะกับผู้ชายที่เกิดวันพฤหัสบดี


ขอขอบคุณเรื่องจากทางบ้านจาก คุณนันท์นภัส เลิศมณีทวีทรัพย์

คาถาขอความรักและเนื้อคู่



คาถานี้ ท่านอาจารย์เมืองคำ ปภากโร ผู้แก่กล้าในญาณแห่งวัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ได้บอกว่า

ใครอยากจะรู้ว่า คู่วาสนาของตนจะมีหรือไม่ ให้ท่องคาถาดังนี้

ปุพเพวะ สันนิวา เสนะ
ปัจจะบันนะ หิเตนะ วา
เอวันตัง ชะยะเต เปมัง
อุปะลัง วะ ยะโส ธะเก ฯ

จุดธูปเทียน(เทียน 2 เล่ม ธูป 3 ดอก) ให้ทำในวันพระขึ้น 15 ค่ำยิ่งดี ให้ตั้งน้ำสะอาด 1 ขัน แล้วสวดคาถานี้เท่าอายุ เช่น อายุ 30 ปี ก็สวด 30 จบ แล้วนำน้ำนั้นมาล้างหน้า แล้วเข้านอน ท่านว่ากลางคืนจะฝันถึงคู่ครองของตน

ถ้ามีวาสนาบารมีจะได้พบความรัก เป็นคาถาที่ใช้สำหรับผู้ที่มีอายุมากแล้วทั้งหญิงชาย แต่ไม่เคยพบกับความรักมาก่อน เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเป็นหม้าย หรือกำลังขาดความรัก หรือภาวนาให้รู้ว่าคู่วาสนาของตนจะมีหรือไม่



ขอขอบคุณเรื่องจากทางบ้านจาก คุณณัฐรดา วัฒนจงกล

ทายนิสัยจากวิธีแสดงออกกับคนรัก

> กอดหรือสัมผัส
คนที่ชอบแสดงออกด้วยการกอดหรือสัมผัสตัวบ่อยๆ เป็นคนที่หัวสมัยใหม่ กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตัวเองเวลารักใครก็เดินไปบอกเลยว่า “รัก” โดยไม่กังวลว่า อีกฝ่ายจะรับรักหรือเปล่า มีมนุษยสัมพันธ์ดี แต่ออกจะเอาแต่ใจตัวเองเล็กน้อย

> ซื้อสิ่งของให้บ่อยๆ
ถ้าแสดงออกกับคนรักแบบนี้ แสดงว่าเป็นคนที่เวลารักใครจะสามารถยกทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตให้เขาได้ จึงไม่แปลกที่เวลาเห็นอะไรน่ารักๆ จะคิดถึงเขาเสมอ เป็นคนให้ความสำคัญกับคนรอบข้าง ไม่ชอบอยู่ในที่ๆ คนเยอะ

> โทรไปหาไม่ขาด
ถ้าแบบนี้ละก็ แสดงว่าคุณเป็นคนขี้เหงามาก แม้ภายนอกดูเข้มแข็ง แต่ภายในแอบอ่อนไหวมาก เวลามีความรักจะทุ่มเทให้ทุกอย่าง คุณเป็นคนคิดมาก ละเอียดอ่อนกับชีวิต บางทีก็ไปทางจู้จี้จุกจิกไปหน่อย

> มีเรื่องมาเซอร์ไพร์สเสมอ
คุณเป็นคนมีเสน่ห์ เป็นนักวางแผนชั้นเยี่ยม ฉลาดทันคน มักเป็นคนที่เพื่อนๆ นึกถึงเสมอ เวลามีโครงการไปทำอะไรที่ไหนบางทีคุณอาจจะดูแปลกๆ เข้าใจยาก แต่เพื่อนๆ ก็พร้อมใจกันรัก เพราะคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพ และเป็นคนน่ารักคนหนึ่งเลยล่ะ

> ชอบพูดให้กำลังใจและห่วงใย
คุณเป็นคนมีจิตใจดี หวังดีต่อคนอื่นเสมอ คุณเป็นคนอบอุ่นเป็นผู้ใหญ่ใจดี จึงไม่ต้องแปลกใจที่มีเด็กๆ มาติด คุณเป็นคนให้ความสำคัญกับเรื่องของจิตใจ จึงมักเป็นศิราณีของเพื่อนๆ เพราะคุณไม่เคยมองปัญหาของเพื่อนเป็นเรื่องไร้สาระ แต่จะช่วยคิดแก้ปัญหาจนหัวหมุน

> ทำของให้ด้วยตัวเอง
คุณเป็นคนใส่ใจในเรื่องของความรู้สึก และชอบตีคุณค่าของคนด้วยการกระทำมากกว่าคำพูด เป็นคนที่ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบอะไรที่รวดเร็ว ฉาบฉวย เป็นคนอ่อนไหว ละเอียดอ่อน รักสันโดษ บางทีก็ขี้เหงา แต่บางทีก็ไม่เอาใครเลยเหมือนกัน

> ชวนไปไหนมาไหนด้วยตลอด
คุณเป็นคนขี้เบื่อ ไม่ชอบหยุดนิ่ง ออกจะไฮเปอร์เล็กน้อย มีบุคลิกคล่องแคล่ว ทำอะไรรวดเร็วฉับไว มักให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับคนอื่นมาก เรียกว่าเป็นคนสังคมคนหนึ่ง คุณเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี เพื่อนเยอะ แต่ต้องระวังมีคนแอบอิจฉาด้วย

> ใจสปอร์ต ใช้จ่ายให้บ่อยๆ
คุณเป็นคนขี้กลัว ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง เวลาคบใครมักจะเกร็ง กลัวว่าเค้าจะไม่ชอบ ซึ่งอาจทำให้คุณไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร คุณเป็นคนที่มีคนรายล้อมรอบตัวเต็มไปหมด เมื่อมีปัญหาจะไม่ค่อยระบายให้ใครฟัง คุณไม่ค่อยมีเพื่อนแท้

> แอบทำสิ่งดีๆ ให้
คุณเป็นคนที่มีจิตใจดีถึงดีมาก เป็นผู้ให้ มีโลกส่วนตัว มองโลกในแง่ดี เป็นคนที่มีความสุขง่ายและอ่อนโยนน่าเข้าใกล้ แม้หลายครั้งคุณจะทำสิ่งดีๆ ให้คนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ คุณมีรัศมีความสุขบางอย่างที่ดึงดูดคนดีๆ เข้าหาตัว และทำให้ทุกๆ คนรักได้

> ส่งจดหมายหรือส่งข้อความไปหาเป็นประจำ
คุณเป็นคนขี้อาย ขี้กลัว และคิดมาก คิดเยอะ ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเท่าไร แต่เป็นคนจิตใจดี ใส่ใจกับความผูกพันมากทีเดียว เป็นคนรักสงบ ไม่ชอบการต่อสู้แย่งชิง ไม่ค่อยทะเยอทะยาน

> บอกรักทั้งวัน ทั้งคืน
คุณเป็นคนจริงใจ คิดยังไงพูดอย่างนั้น เป็นคนค่อนข้างเปิดเผย ไม่ค่อยมีความลับกับเขาสักเท่าไร เก็บความลับไม่อยู่ มั่นใจ มีเสน่ห์ ไม่ค่อยแคร์กันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แม้ในบางอารมณ์จะดูอ่อนไหวและละเอียดอ่อนจนคนอื่นงงเลยก็ตาม

> ไม่แสดงออกชัดเจน
คุณเป็นคนลึกลับ เข้าใจยากและขี้กลัว แม้สิ่งที่แสดงออกมาดูเหมือนเป็นคนมั่นใจ แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนอ่อนไหวไม่ต่างจากคนอื่น คุณเป็นคนเงียบๆ คิดเยอะ ไม่ค่อยแสดงออก ยกเว้นไม่ไหวจริงๆ คุณจะหลุดคำพูดที่ทำให้คนรอบข้างอึ้งอยู่บ่อยๆ คุณเป็นคนฉลาดทันคน ชอบการแข่งขัน มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบการผูกมัดอะไรกับใคร แต่ก็อ่อนไหวกับความรักง่ายๆ เหมือนกันนะ


ขอบคุณ Forward Mail จาก คุณวัชรา

ความฝันที่บอกล่วงหน้าว่าคุณจะพบคู่


คนมากมายคิดว่าการนอนหลับเป็นเรื่องเสียเวลาและความฝันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่ผู้ศึกษาวิชา dream analysis รู้ว่ามีกลไกทางจิตวิทยาที่ผลักดันชีวิตคนเราอยู่และมนุษยชาติถูกร้อยรัดเข้าด้วยกันกับ universal intelligence หรือภูมิปัญญาจักรวาล ส่วน ‘เสียงภายใน’ ที่มนุษย์รู้สึก เรียกว่า inner intelligence หรือภูมิปัญญาภายใน สองภูมิปัญญานี้สื่อสารสู่กันผ่านทางความฝัน ความผันจึงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสะสางแก้ไขปัญหาชีวิตและช่วยพาเราไปสู่ self-growth การเติบโตของตัวเราเอง

ตลอดเวลาที่ฉันใช้หลักวิชาวิเคราะห์ความฝันในการช่วยคนรอบข้างตีความ message จากฝันเพื่อช่วยพวกเขาคลี่คลายปมปัญหาและนำทางชีวิตนั้น คำถามยอดอมตะที่ฉันโดนถามอยู่เสมอคือ ‘ฝันแบบไหนถึงจะรู้ว่าเรากำลังจะเจอความรัก’ และ ‘ฝันถึงงู เราจะเจอเนื้อคู่หรือเปล่า?’


คุณอย่ากลัวว่าจะเป็นคำถามปัญญาอ่อนเลยนะคะ ขอบอกเลยว่าในคลังวิชาการวิเคราะห์ความฝัน ทั้งแบบเก่าแก่โบราณ (Traditional dream analysis) ที่เน้น ‘ทำนายดวง (fortune-telling)’ กับแบบความฝันยุคใหม่ (Modern dream analysis) ของ 2 อภิปรมาจารย์ทางวิชาความฝัน คือ ท่านซิกมุนด์ ฟรอยด์ ที่เน้นกลไกทางจิตวิทยา (Psychological meanings) และคาร์ล จัง ที่เน้นการแก้ไขความรู้เชิงจิตวิญญาณ (Spiritual meanings) ต่างมีการบันทึก ความฝันที่เป็นสารบอกเหตุล่วงหน้าเกี่ยวกับคู่ในอนาคต ทั้งนั้นค่ะ ก็เพราะเรื่องความรักและเนื้อคู่นี่เป็นเรื่องยอดฮิตที่คนเกือบทั้งโลกอยากรู้นะสิค่ะ แล้วเราจะละเลยได้อย่างไรเล่า

ความฝันที่บอกว่าคุณจะได้พบคู่หรือกำลังจะเจอความรัก
1. ฝันถึงงู (งูรัด ถ้างูกัดต้องเป็นงูใหญ่เท่านั้น)
2. ฝันถึงเครื่องประดับสวยงาม โดยเฉพาะอย่างแหวน
3. ฝันถึงน้ำหอม
4. ฝันถึงดอกไม้
5. ฝันถึงฝนตก


* ฝันถึงงู *
‘งู’ ในหลายๆ วัฒนธรรมหมายถึง กามารมณ์ ‘ซิกมุนด์ ฟรอยด์’ ให้ความหมายว่าเป็นอวัยวะเพศชาย บางวัฒนธรรมหมายถึงปัญญาแบบเซียนหรือหมายถึงเทพเจ้า แต่พี่ไทยบ้านเราฟันธงมาตลอดว่า ฝันถึงงูรัดจะเจอเนื้อคู่แน่นอน และฉันขอคอนเฟิร์มว่าจริง!

แต่การฝันถึงงูที่เป็นการบอกเหตุล่วงหน้าว่าคุณจะเจอคู่แน่นอนนั้น ต้องมีลักษณะเฉพาะตรงตามนี้ค่ะ

1. ต้องเป็นงูรัด หรืองูไล่เพื่อจะมารัดเท่านั้น
ถ้างูนอนอยู่เฉยๆ นิ่งๆ โดยเฉพาะนอนในบ้านคุณหรือกลางป่าเขาลำเนาไพร จะหมายถึงเจ้าที่เจ้าทาง ไม่ใช่เนื้อคู่ค่ะ ลืมไปได้เลย

ตัวอย่าง มีคนฝันเห็นงูใหญ่นอนใต้บ้าน เช่น ใต้ดิน ใต้ถุน ใต้พื้นบ้าน ฯลฯ ใต้บ้านเป็นสัญลักษณ์ของระดับ subconscious หรือจิตใต้สำนึก แสดงว่าเจ้าที่เจ้าทางที่มีภูมิปัญญาประจำบ้านคุณ มาบอกให้ขุดค้นพลังจิตใต้สำนึกออกมาใช้ค่ะ ไม่ใช่หมายถึงว่าจะเจอคู่

ถ้างูกัด จะไม่หมายถึงเนื้อคู่โดยตรง แต่หมายถึงการมีเรื่องกวนใจ มีปากเสียง

งูนั้นต้องมีการสัมผัสร่างกายคุณเท่านั้น เช่น รัดรอบคุณ พันมือ หรือแข้งขาก็ได้ ถ้าไม่สัมผัสถูกเลยก็ไม่ใช่คู่

2. ขนาดของงูมักจะปานกลางถึงใหญ่
ถ้างูตัวเล็ก จะไม่หมายถึงคู่ โดยเฉพาะถ้าตัวเล็กและมาเป็นฝูง

ตัวอย่าง เพื่อนฉันเคยฝันว่าถูกรุมไล่กัดโดยฝูงงูเล็กๆ ยั้วเยี้ย จนต้องหนีขึ้นตลิ่ง ปรากฏว่าเธอมีปัญหากับทีมงานทั้งทีมเลยค่ะ ขนาดงูยิ่งใหญ่ จะหมายถึงความสัมพันธ์ที่เข้มข้นขึ้นตามขนาดงู และถ้างูสวยงาม หรือเป็นงูใหญ่มีฤทธิ์ เช่น พญานาค จะหมายถึงระดับฐานะทางสังคมและชื่อเสียงของคนที่จะเจอ

3. สีของงู จะบอกสภาพอารมณ์ของความสัมพันธ์
สีแดง หมายถึงรักอันร้อนแรงแบบ sexual
สีเหลืองนวลถึงเผือก หมายถึงความรักแบบกัลยาณมิตร เอื้ออาทร เป็นรักแบบ spiritual
สีดำ คือรักแบบคาดหวังและเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ หึง งอน แบบมนุษย์ earthy
สีเขียวอ่อน หมายถึงสดชื่น เป็นธรรมชาติ
สีเหลื่อมเลื่อมพิเศษ เช่น สีเขียวมรกต สีทองอร่าม สีเงินประกาย จะหมายถึงระดับฐานะของคู่มากกว่ารูปแบบความสัมพันธ์ เป็นต้น (เราจะเรียนเรื่อง ‘สีในความฝันบอกอะไร’ กันละเอียดอีกทีนะคะ)

ตัวอย่าง ฉันฝันว่างูตัวปานกลางค่อนข้างใหญ่ ประมาณงูแสงอาทิตย์ สีดำแดงสลับกัน เข้ามารัดและกัดฉันหลายครั้ง ต่อมาฉันเจอชายหนุ่มที่ฉันหมั้นหมายด้วย ความสัมพันธ์ของเราเต็มไปด้วยอารมณ์ทุกประเภท ทั้งจี๋จ๋า โรแมนติก เคือง งอน ร้องไห้ ราวกับมิวสิกวิดีโอเพลงอาร์เอส ไม่มีช่วงสงบสุขเลย แต่ก็มันดีค่ะ (ฝันตรงเลยเนอะ)

4. ลักษณะการที่งูเข้ามาหาคุณ บอกสภาพการที่คู่เข้ามาในชีวิต
เข้ามาจู่โจมอย่างรวดเร็ว = เขาเข้ามาแบบรวดเร็วปุบปับ ไม่ตั้งตัว
ค่อยๆ เลื้อยช้าๆ มาคลอเคลีย = ใช้เวลาในการสร้างความสัมพันธ์
งูไล่แล้วคุณหนีไม่คิดชีวิต = เขาเป็นฝ่ายรักหรือจู่โจมคุณก่อน (บางกรณีอาจมีปล้ำ อันนี้ไม่ล้อเล่นค่ะ เรื่องจริง มันเกิดขึ้นมาแล้ว)

5. สภาพอารมณ์คุณตอนเจองู สำคัญมากๆ
โบราณว่า ‘ยิ่งกลัวงูมากเท่าไร ความรู้สึกในความสัมพันธ์ยิ่งเข้มข้น’ แหม แต่จะบอกว่าความรู้สึกในฝันนี่เฟคไม่ได้นะเจ้าคะ พอรู้ว่ายิ่งกลัวยิ่งเข้มข้น คุณก็เฟคกลัวกลั๊วกลัวงูในฝันซะเลย ไม่ด้ายค่า!

6. คุณทำอย่างไรกับงู บอกว่าคุณพร้อมแค่ไหนที่จะมีคู่
ปฏิกิริยาคลาสสิกในการฝันว่างูรัดหรืองูไล่มาพันตัว คือ

- พยายามปัดหรือวิ่งหนี แต่ไม่พ้น งูตามมาจนได้ (เสร็จงู ว่างั้นเถอะ) = คุณจะได้คบเป็นแฟนกับคนนี้แน่นอน

- ทำร้ายงู หรือกระทั่งฟันงูขาด กระทืบๆ งูจนตาย = ไม่ว่าปากคุณจะบอกว่าอยากมีแฟนกับเขาซะทีแค่ไหน ในจิตใต้สำนึก จริงๆ คุณกลัวความรักมากๆ ค่ะ และความกลัวการมีคู่ กลัวมีความสัมพันธ์นี้มาแสดงออกในฝัน ยิ่งทำร้ายงูบอบช้ำรุนแรงเท่าไหร่ ยิ่งบอกความกลัวมากเท่านั้น (โถ งูผู้น่าสงสาร) เพราะฉะนั้นคุณอาจเจอคนถูกใจแต่เขาจะผ่านคุณไปในชีวิตจริง โดยที่คุณจะนึกว่า ‘ฝันไม่แม่นเลย’ แต่ที่จริงเป็นเพราะ subconscious คุณไม่พร้อมเปิดใจรับความสัมพันธ์ต่างหาก

- วิ่งหนีสุดชีวิต งูก็ไล่ไม่ลดละ จนสะดุ้งตื่น = subconscious บอกความไม่พร้อมที่จะมีแฟนของคุณ หรือบอกความกลัวที่คุณรู้สึกลึกๆ ว่าคนคนนี้ไม่เหมาะสมกับคุณ จึงแสดงออกในฝันว่าคุณหนีงูสุดๆ และถ้างูตามไม่ลดละ (มุ่งมั่นมาก) อาจไม่ได้หมายถึงว่าคู่ของคุณตามตื๊อคุณอย่างเดียว แต่หมายถึงว่าแม้จะไม่มีความสัมพันธ์กัน เขาก็จะยังคงยืนยันที่จะอยู่ในชีวิตคุณอีกนาน ไม่หายหัวไปง่ายๆ (แต่อาจเปลี่ยนรูปแบบไปคบกันอย่างอื่น เช่น เป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อน หรือทำธุรกิจด้วยกัน)

- สงบสุขท่ามกลางงูรัด = เอ๊ะ มีด้วยหรือเนี่ย? มีค่ะ ฉันไง นอนหลับปุ๋ยสบายเลย งูนุ่มดี เหมือนเตียงนุ่มและผ้าห่มห่มฉันให้หายหนาวเลย แสดงว่าสำหรับคู่คนนี้คุณพร้อมให้เขาเข้ามาในชีวิตอยู่แล้ว และสภาพความสัมพันธ์ก็จะสบายๆ อบอุ่น ปลอดภัย แต่ไม่หวือหวานะ


* ฝันถึงเครื่องประดับ อัญมณี ฝันคลาสสิกแต่โบราณ บอกการเจอคู่ *
เครื่องประดับในหลายๆ วัฒนธรรม หมายถึงของหมั้น และเป็นของขวัญสำหรับคนรัก ฟรอยด์ให้ความหมายเครื่องประดับว่า หมายถึงคนที่เรารัก และแหวน เป็นสัญลักษณ์ของ commitment/bond - การผูกมัดทางใจและความผูกพัน

แต่การฝันถึงเครื่องประดับที่บอกเหตุล่วงหน้าว่าคุณจะเจอคู่ ต้องมีลักษณะเฉพาะเช่นกันค่ะ

1. ถ้าเครื่องประดับนั้นเป็นแหวน หมายถึงคู่แน่นอน
- ฝันว่ามีคนสวมแหวนให้ คุณจะได้เป็นคู่กับคนที่คุณรัก
- ฝันว่ามีคนให้แหวน และคุณเอามาใส่ คุณกำลังมีคนหมายปอง (เจ้าของแหวนที่ให้)
- ฝันว่าคุณให้แหวนคนอื่น หมายถึงคุณกำลังรักคนนั้นข้างเดียว

2. ถ้าเครื่องประดับนั้นเป็นกำไล หรือสร้อยคอ ต้องมีการนำมาสวมใส่ลำคอหรือข้อมือ
- หากคุณเป็นคนสวมใส่กำไลหรือสร้อคอให้ตัวเอง หมายถึง การได้พบและแต่งงานกับคนมั่งคั่ง หากมีคนสวมสร้อคอหรือกำไลให้คุณ คุณจะตกหลุมรัก และเป็นรักที่จริงใจ หากเครื่องประดับแตก หัก ขาด หล่น ความรักและการแต่งงานนั้นจะผิดหวัง

3. ถ้าเป็นไข่มุก โบราณหมายถึง happy marriage
ฟรอยด์จะตีความไข่มุกว่าเป็น female clitoris แต่หลายตำราหมายถึงการพบรักหรือแต่งงานกับคนดีพร้อมทั้งกายใจและทำให้เรามีความสุขมาก


* ฝันถึงน้ำหอม *
น้ำหอม เป็นเครื่องหมายของพลังดึงดูดทางเพศ และความงามที่เปล่งปลั่ง คุณกำลังมีเสน่ห์อย่างมาก จึงดึงดูดคนมาชอบมากมาย คุณจึงมีโอกาสพบคนที่ชอบ ได้เดต แต่อาจไม่ใช่เนื้อคู่


* ฝันถึงดอกไม้ *
ดอกไม้ เป็นเครื่องหมายของความรักและเพื่อนต่างเพศ หมายถึงความหวังที่จะพบรัก ในยุโรปยุคกลาง ดอกไม้ที่มีหนามหักหมายถึงการร่วมเพศ ในอินเดียหมายถึงความสุขสูงสุด คาร์ลยังระบุว่าดอกไม้หมายถึงอารมณ์และความรู้สึก

สีของดอกไม้ที่คุณฝัน หมายถึงความรักแต่ละรูปแบบ
ดอกไม้แดง หมายถึง sexual love รักแบบชู้สาวและมีเพศสัมพันธ์
ดอกไม้ขาว หมายถึง รักบริสุทธิ์
ดอกไม้น้ำเงิน หมายถึง ความรักที่ดวงวิญญาณและความรู้สึกหลอมรวมกันจนแข็งแกร่ง
ดอก snowdrops หมายถึง การเอาชนะหน้าหนาวและความตาย
สีเหลือง หมายถึง รักสามเส้า

โบราณระบุว่าฝันว่าเก็บดอกไม้ เป็นสัญลักษณ์ของการจะพบประสบการณ์ทางเพศ หรือความมั่งคั่งร่ำรวย
ถ้าจับดอกไม้มาจัดเป็นช่องาม หมายถึง การแต่งงานที่ทุกคนยินดีด้วย


* ฝันถึงฝนตก *
น่าแปลกจังค่ะ ทุกตำราความฝันที่ฉันมีระบุว่าฝันถึงฝนตกหมายถึงการพบรัก (ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย) แต่รักนั้นเป็นอย่างไรต้องดูที่ประเภทของฝนค่ะ

ฝนตกปรอยๆ คุณจะพบคนที่รักคุณอย่างจริงใจ
ฝนฤดูใบไม้ผลิ คือความรักที่ดีงาม เป็นความสัมพันธ์ที่ให้ความชุ่มฉ่ำและชุบชีวิตใหม่แก่คุณ หลังจากพ้นฤดูหนาวอันแสบเยียบเย็น

น่าแปลกอีก เรื่องที่ฝันถึงดอกกุหลาบ ฝันถึงเจ้าสาวเจ้าบ่าวหรือพิธีแต่งงาน กลับไม่ได้หมายถึงการพบรัก แต่ไปเน้นเรื่องชีวิตและการค้าแทน